AI ยังคงเป็นหนึ่งในเทรนด์การลงทุนที่มาแรงของปี 2024 นี้ โดยหุ้นเทคฯที่ทำด้าน AI ที่หลายคนจับตามองอย่าง NVIDIA ประกาศงบออกมาล่าสุดมีกำไรโตระเบิด โดย Gross Margin ใน Q1/2024 เติบโตถึง 78% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
โดยการที่ Nvidia เติบโตได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า บริษัทต่าง ๆ เช่น Google, Microsoft, Meta, Amazon และ OpenAI ได้ซื้อบริการ GPU ของ Nvidia มูลค่ารวมหลักแสนล้านบาท เพื่อใช้สำหรับอัปเกรด Data Center และใช้พัฒนา AI นั่นเอง
นอกจาก Nvidia แล้ว บริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่ก็เริ่มเข้ามาลงทุนพัฒนา AI มากขึ้น เช่น Microsoft ที่เพิ่งทุ่มเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้าง AI Infrastructure นอกจากนี้ Google, Amazon ก็ลงทุนระดับหลายพันล้านเช่นกัน
เหรียญคริปโตฯ ด้าน AI
ส่วนคริปโตฯก็มีเหรียญ AI เกิดขึ้นมานับร้อยๆตัว แต่ละตัวก็มีบทบาทที่ต่างกันออกไป ทั้งตัวที่แค่เกาะกระแสชั่วคราวเพื่อพยายามดันราคาโปรเจกต์ตาม Narrative ในขณะเดียวกันก็มีหลายๆตัวที่ยังพอมี Potential ในการใช้งานจริงในอนาคตได้ โดยปัจจุบันแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆดังนี้
1. Decentralized GPU
โปรเจกต์แนว Decentralized GPU Network เป็นการเปิดให้ผู้ใช้งานนำ GPU ของตัวเองมาปล่อยเช่า สามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน GPU ที่อาจจะเจอได้ถ้ามีการใช้งาน AI มากขึ้นในอนาคต ตัวอย่างโปรเจกต์ เช่น Render Network, io.net, Aethir, Akash
ทาง Cryptomind Research เคยเขียนบทความเกี่ยวกับ Render ไว้แล้ว อ่านได้ที่นี่
2. AI Software Agent
เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้งานหรือธุรกิจมาใช้งานหรือสร้าง Automated AI Agent เพื่อช่วยในการทำงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งใน Web2 และ Web3 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพัฒนาโมเดลสำหรับการเทรด, การพัฒนาโครงการ Smart Cities จากพฤติกรรมผู้บริโภค ตัวอย่างโปรเจกต์ เช่น Fetch.AI, SingularityNET และด้วยความที่เป็น Decentralized ทำให้ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งมาควบคุมได้
3. Decentralized Data
เป็นโปรเจกต์ที่ให้บริการด้าน Data เพื่อให้โปรเจกต์กลุ่ม AI Agent สามารถมาดึงข้อมูลไปเพื่อพัฒนา AI Model ต่อได้ โดยโปรเจกต์กลุ่ม Data นี้ อาจจะเป็นลักษณะที่เปิดให้ผู้ใช้งาน โปรเจกต์ หรือธุรกิจ นำ Data ของตัวเองมาแลกเปลี่ยนผ่าน Marketplace อย่างเช่น Ocean Protocol หรือจะเป็นโปรเจกต์แนว Data Indexing & Querying (นึกถึง Google on Web3) เช่น The Graph เป็นต้น
4. AI Onchain Agent
เป็นแนวโปรเจกต์ที่โฟกัสไปที่การให้บริการใช้ AI ในการสร้าง Automated Tool เพื่อการใช้ประโยชน์บนบบล็อคเชน เช่น โปรเจกต์ Spectral, Autonolas ที่ทำให้นักพัฒนาทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้น เช่น ช่วยในการเขียนและ Deploy Smart Contract, การสร้าง Token, สร้าง LP บน DEX รวมถึงมี Machine Learning ช่วยในการ Optimize Code เป็นต้น
5. Onchain Analytics
เป็นโปรเจกต์ที่ใช้ AI ช่วยในการ Track รวมถึงการ Analyze ข้อมูล Onchain และ Offchain ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล Wallet, ประวัติการซื้อขายและการฝากเข้า Exchange แล้วรวบรวมประมวลผลออกมาให้เรา ตัวอย่างเช่น Arkham, Nansen AI เป็นต้น
ทาง Cryptomind Research เคยเขียนบทความเกี่ยวกับ Arkham ไว้แล้ว อ่านได้ที่นี่
6. AI Model Training
เป็นโปรเจกต์ที่ให้ Node หรือผู้ใช้งานเข้ามาช่วยกันพัฒนา Machine Learning/AI Model ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น หรือเรียกว่า “Decentralized AI Training” ตัวอย่างเช่น Bittensor หรืออย่าง AI Arena ที่เน้นในด้าน Gaming คือให้ผู้เล่นสามารถ Train Skill ของตัวละครในเกมให้เก่งขึ้น
7. Blockchain for AI
บล็อคเชน Layer 1 ที่รองรับและ Optimize เพื่อการใช้งาน DApps เกี่ยวกับ AI ที่ต้องรองรับการทำงานและการคำนวณแบบซับซ้อนมากๆได้ โดยอาจมาพร้อมกับ Infrastructure แบบเพื่อรองรับการใช้งาน AI ได้เต็มรูปแบบ เช่น Data Platform สำหรับ Machine Learning ตัวอย่างเช่น ICP, Near Protocol เป็นต้น
สรุป
ข้อดีของการนำ AI มาใช้งานบนบล็อคเชนคือเพิ่มความเป็น Decentralized และ Open Source เพราะว่าในอนาคตถ้ามีการใช้งาน AI มากขึ้น ปัญหาที่สามารถตามมาได้ถ้ายังพึ่งพา Centralized Entity คือการควบคุมในส่วนของ Data และ Computing Power แบบรวมศูนย์ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเช่น ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, ปัญหาด้าน Single Point of Failure, หรือปัญหาอย่างการเปลี่ยนแปลง Model ซึ่งถ้าใครที่มีอำนวจควบคุมอยากทำก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องแจ้ง เป็นต้น
นอกจากนี้บล็อคเชนยังสามารถสร้างระบบ Token Incentive เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรักษาผลประโยชน์ให้กับระบบและได้รับผลตอบแทนกลับไปในรูปแบบของเหรียญได้