หากหลับไป 10 ปีแล้วตื่นขึ้นมาใหม่ โลกจะยังหน้าตาเป็นแบบเดิมที่เรารู้จักอยู่หรือไม่ พัฒนาการของเทคโนโลยีในตอนนี้ทําให้เรารู้สึกว่า โลกที่เรารู้จักจะเปลี่ยนไปจนเราจําแทบไม่ได้ และเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 ทําให้หลายบริษัทจําเป็นต้อง Work From Home ซึ่ง กลายเป็นการเปลี่ยนโฉมการทํางานครั้งยิ่งใหญ่ที่หลายคนไม่คิดว่าจะทําได้ แต่สุดท้ายก็ได้พิสูจน์แล้วว่าหลายบริษัทสามารถทําได้และ เริ่มตั้งคําถามกับการมีอยู่ของออฟฟิศบนโลกจริง
ในปี 2021 ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่เป็นยุคทองของ Cryptocurrency เราได้เห็นการใช้งานจริงอย่าง Bitcoin ที่เริ่มต้นจากสิ่งที่ ไม่มีใครให้ความสนใจจนกลายเป็นสกุลเงินของประเทศเล็ก ๆ และยังกลายเป็นหัวข้อสําคัญในการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่ง จนเกิดการโต้ตอบด้วยการสร้าง Central Bank Digital Currency (CBDC) มาเพื่อคานอํานาจกับ Bitcoin นอกจากนี้ Iรายังเห็น เม็ดเงินที่ไหลเข้าไปใช้งาน DeFi และสถาบันการเงินใหญ่ ๆ ก็เริ่มตระหนักถึงการท้าทายนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วน NFT ก็เปิดโอกาสให้คน สามารถสร้างสินค้าที่มีจํานวนจํากัด (Scarcity) บนโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
ต่อมาในช่วงปลายปี 2021 ทาง Facebook ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta และกําหนดทิศทางของบริษัทไปที่ Metaverse เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการจุดกระแส Metaverse ให้เป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีกลุ่มคนที่คิดว่าเรื่องเหล่านี้จะชํา รอยเดิมอย่าง 3D Printer หรือ Segway ที่หลายคนคิดว่าจะเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกแต่สุดท้ายก็ไม่เกิดการใช้งานจริงมากเท่าที่คิด แต่ก็มีกลุ่มคนที่คิดอย่าง Mark Zuckerberg ที่มองว่าคนจะประเมินเทคโนโลยีนี้ต่ําไปจากความเป็นจริงเหมือนกับการใช้ Zoom ในกาs Work From Home ได้ทุกบริษัทรวดเร็วแบบนี้ ดังนั้น บทวิเคราะห์นี้จะเป็นการเจาะลึกคําว่า Metaverse อย่างละเอียดเพื่อ ให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจคํานี้ได้ดียิ่งขึ้นและตัดสินได้เองว่าสิ่งนี้จะเป็นแค่เทคโนโลยีนายฝันหรือกําลังจะเป็นอนาคตจริง ๆ
Author
-
Cryptomind Group is Thailand’s leading pioneer in digital asset financial services and investment product development
View all posts