สรุป CoinTalk ประจำวันที่ 23/12/2022

Macroeconomics

• ในตอนนี้มุมมองนักลงทุนเปลี่ยนไป จากก่อนหน้านี้ที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีตลาดจะติดลบ เพราะตลาดกลัวว่าถ้าเศรษฐกิจดีเกินไปเงินเฟ้อจะไม่จบ แต่ตอนนี้ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีตลาดจะตอบแทนเป็นบวก เป็นการแสดงว่านักลงทุนคลายกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่ไปกังวลเรื่อง Recession แทน 
• ภาพรวมในช่วงนี้ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทาง Powell ก็ออกมาบอกว่าอาจจะหาทางออกแบบ Soft landing ได้โดยที่อาจจะไม่เกิด Recession อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากแต่ละสำนักอย่างเช่น Morgan Stanley, JP Morgan ก็มีเสียงแตก บ้างก็บอกว่า Recession จะเกิด บ้างก็บอกว่าจะเลี่ยงได้แบบหวุดหวิด
• อย่างไรก็ตามถ้าเงินเฟ้อยังลงไม่พอ และ Recession ไม่เกิด แล้ว Fed อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปเกินกว่าที่ FOMC dot plot ทำนายไว้ที่ระดับ 5.1% ตอนนั้นอาจจะเกิด Panic sell ได้
• ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจโลกก็ยังแย่อยู่ อย่างเช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ที่เริ่มมีนโยบายลดเงินเฟ้อออกมามากขึ้น อย่างล่าสุดทาง ECB ก็ออกมาประกาศว่ามีแนวโน้มจะทำ QT และขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยที่ตอนนี้ก็ได้สะท้อนไปที่ราคาพันธบัตร 10 ปีที่ราคาปรับตัวขึ้น หรือแม้แต่ประเทศไทยเอง ที่ BOT อาจจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพราะตอนนี้เงินเฟ้อยังสูงอยู่ที่ระดับ 6-7% โดยยังมีเป้าหมายกดเงินเฟ้อให้เหลือ 2% 

• ถึงแม้ภาพรวมเงินเฟ้อจะเริ่มลดและ Fed เริ่มมีท่าที Less hawking แต่ตัวเลข Core PCE ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ออกมาลดลงแต่เป็นการปรับตัวลงที่น้อยกว่าคาด สาเหตุมาจาก Housing ราคายังไม่ลดลงมากเทียบกับ Food และ Services ดังนั้นตัวเลขที่ควรจับตามองหลังจากนี้ถ้าจะดูทิศทางเงินเฟ้อต่อไปคือ Housing

• หนึ่งในวิธีการหาสัญญาณ Top หรือ Bottom ของ S&P500 ให้ดูจาก indicator อย่าง CEIs เช่น ถ้า CEIs ทำจุด Top และเริ่มกลับตัวลง ตามสถิติย้อนหลังมักจะหมายถึงว่าหลังจากนั้น 6-12 เดือนจะเป็นจุด Bottom ของ S&P500 และเป็นจุดที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเวลาทองของการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ตอนนี้น่าจับตามองจุด Top ของ CEIs ที่อาจจะมาถึงในไม่ช้า

• ปีหน้า 2023 นักวิเคราะห์ส่วนมากมองว่าจะเป็นปีที่ลงทุนยากเพราะติดปัญหาเรื่องสภาพคล่องของเงินทั่วโลกต่ำ อาจจะเป็นตลาดหมีอีกปี และปี 2024 ตลาดอาจจะกลับมา ช่วงนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำว่าลงทุนต้องเน้น Selective มากขึ้น เก็บเงินสดบางส่วนไว้

Blockchain/DeFi

• หนึ่งแพลทฟอร์มที่นักวิเคราะห์มองว่าน่าสนใจและอาจเป็น Narrative ได้ในอนาคตคือ Rocket pool ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มให้บริการ Liquid staking ที่มีความแตกต่างจาก Lido คือถ้าฝากกับ Lido จะได้รับแค่ Staking reward แต่ถ้าฝากกับ Rocket pool จะเลือกตั้งเป็น Node เองได้โดยใช้จำนวนเหรียญ ETH แค่ 8 ETH (จากปกติ 32 ETH) โดยถ้าฝากกับ Rocket pool จะได้ทั้ง Staking reward และ MEV ส่วนเหรียญ RPL ก็มี Proposal ออกมาว่าคนที่จะใช้บริการต้องนำเหรียญ RPL ไป Stake ไว้ส่วนหนึ่งด้วย
• เมื่อช่วงก่อนหน้านี้เกิดปัญหาราคา GLP ของแพลทฟอร์ม GMX ที่เพี้ยนไปจากปกติเล็กน้อย (ไม่เกิน 1%) เพราะว่า Oracle ทำงานผิดพลาด ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องตระหนักไว้เกี่ยวกับแพลทฟอร์มแนวนี้ ต่างจากแพลมฟอร์มแนว UniSwap ที่จะไม่มีความเสี่ยงจาก Oracle
• Chainlink ช่วงนี้ราคาแข็งกว่าตลาดอาจจะเป็นเพราะเพิ่งเปิดตัว Staking พร้อมกับน่าจะมีข่าวดีอื่นๆตามมาเช่น CCIP messaging protocol ที่น่าจะเป็นหนึ่งใน Solution ที่ดีที่สุดของ Crosschain 
• กระแสที่น่าจับตามองปีหน้าคือพวก Zero knowledge proof เพราะเป็นเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาได้หลากหลาย โดยเริ่มมี VC เข้าลงทุนเยอะในโปรเจกต์พวกนี้ เช่น zkSync, Aztec เป็นต้น

Metaverse

• โปรเจกต์ Otherside มีปล่อย Sneak peak ของปี 2023 โดยจะมีการจ้าง CEO และ Cheif Gaming Officer คนใหม่ที่มีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทชื่อดังอย่างเช่น Disney เข้ามา และจะมีการทำ Playable Avatars โดยคนที่ถือ NFT อย่าง BAYC, MAYC, Meebit จะสามารถ Log in เข้า Otherside โดยมี Avatar เป็น NFT นั้นๆได้เลย หรือจะสร้าง Avatar ใหม่ก็ได้
• มีข่าว Mark Zuckerberg อาจจะลาออกจาก Meta ถ้าเป็นตามนั้นนักวิเคราะห์มองว่าราคาเหรียญกลุ่ม Metaverse อาจจะปรับตัวลงอีกได้
• สำหรับ Ape staking ทางนักวิเคราะห์มองว่ายังไม่เห็นประโยชน์ที่เกิดจากการ Stake ซึ่งจะเกิดผลเสียมากกว่าเพราะเหรียญถูก Dilute นอกจากนี้แล้วปีหน้ายังมีปลดเหรียญอีกเยอะ ให้ระมัดระวัง

.

คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต