
ในบทความนี้เราจะมาเจาะ Sector ที่มีแน้วโน้มที่จะมาแรงใน Bullrun ปี 2024 และเหรียญที่มีแนวโน้มที่จะทำผลตอบแทนได้ดีกว่าเหรียญอื่นๆ โดยเหรียญส่วนใหญ่ในโพยนี้จะเป็นเหรียญใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านช่วง Bullrun รอบก่อน และมีแนวโน้มที่จะเป็นเหรียญหลักที่มีชื่อเสียงใน Bullrun รอบถัดไป
จากที่ผู้เขียนได้วิเคราะห์เหรียญส่วนใหญ่ที่สามารถทำกำไรได้มากกว่า 30x ใน Bullrun รอบก่อน นั้นส่วนมากจะเป็นเหรียญที่เปิดตัวช่วงตลาดหมี และยังไม่เคยมีการพุ่งขึ้นของราคาอย่างรุนแรงมาก่อน และเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ Top 20 มักจะเปลี่ยน Sector และเปลี่ยนตัวทุกๆ Cycle ของ Bullrun ทำให้เหรียญใน List นี้จะเป็นเหรียญใหม่ที่เปิดตัวในช่วงตลาดหมี และจะเป็นเหรียญตัวเต็งของ Sector ที่กำลังจะมาในอนาคต
โดยถ้าหากอ้างอิงจาก Cycle ก่อนๆ ช่วงเวลาที่จะเป็นจุดสูงสุดของ Bullrun ครั้งหน้าน่าจะเป็นช่วง ปลายปี 2025, การคำนวนราคา Marketcap และ Supply ในบทความนี้จะอ้างอิงตามช่วงเวลาดังกล่าว

Layer 2
Blockchain ที่มีคนใช้งาน 10 อันดับแรกเป็นเชน Layer 2 ถึง 4เชน และ Blockchain กลุ่มนี้นั้นมีผู้ใช้งานรวมกันกว่า 500,000 คนต่อวัน และมี dApps ไปพัฒนากว่า 1,000 โปรเจกต์ อีกทั้ง Blockchain Layer 1 หลายโปรเจกต์เริ่มเปลี่ยนมาเป็น Layer 2 ทำให้ Sector นี้น่าจะมาแรงที่สุดใน Bullrun รอบหน้า
ในตอนนี้มีโปรเจกต์ Layer 2 มากกว่า 10 โปรเจกต์ และมีโปรเจกต์ Layer 2 ที่กำลังพัฒนาอีกมากมาย อาจจะมากถึงหลักร้อยโปรเจกต์ในช่วง Bullrun แต่เหรียญที่ทางผู้เขียนคิดว่าจะมีแนวโนมเติบโตสูงที่สุดได้แก่
Arbitrum ($ARB)
Arbitrum เป็นเชนที่โดดเด่นที่สุดของ Layer 2 เชน Aribitrum ในตอนนี้มี TVL อยู่ที่ประมาณ $1.7b Volume การใช้งาน $400m ผู้ใช้งานประจำอยู่ที่ราวๆ 1แสนคน และมีรายได้ทั้งหมดกว่า $30m นับเป็นเชนที่มียอด TVL เป็นอันดับ 4 ของเชนทั้งหมด และเป็นอันดับ 1 ของเชน Layer 2 และที่ผู้เขียนคาดการณ์ว่าก็ยังจะคงเป็นอันดับ 1 ในอนาคต

ขอบคุณภาพจาก Defillama
หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้งานให้อยู่บน Arbitrum นั้นคือ Ecosystem และ dApps เรียกได้ว่า Arbitrum นั้นมี Ecosystem ที่ดีที่สุดในบรรดา Layer 2, โดย dApps ที่ดึงดูดผู้ใช้งานให้กับ Arbitrum คือ GMX, Pendle Finance, Radiant และ dApps เล็กๆอีกมากมาย นักลงทุนจะเห็นว่าในช่วงตลาดหมีแบบนี้ มีเพียง ETH และ Arbitrum Ecosystem ที่มีคนใช้งานเป็นหลัก
นอกจากนั้น Arbitrum ยังมีทีมผู้พัฒนาที่มีความสามารถอย่าง Offchain Labs อีกทั้งยังสามารถระดมทุนได้สูงถึง $140m จากนักลงทุนชื่อดังหลายเจ้า ทำให้มีทุนเพียงพอในการพัฒนา และวิจัยสิ่งต่างๆอีกมากมาย บวกกับจะมีกิจกรรมอย่าง Arbitrum STIP ที่จะดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้น
Arbitrum ได้พัฒนา Arbitrum Orbit, Blockchain Layer 3 เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังทำ Arbitrum Stylus ที่ทำให้นักพัฒนาใช้ภาษาอื่นในการพัฒนา Arbitrum ได้ และในอนาคตจะมีการอัพเดทอีกมากมาย ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้จะสามารถดึงดูดนักพัฒนา ผู้ใช้งาน และสร้างรายได้มากมายให้กับ Arbitrum ในอนาคต
ทางผู้เขียนคิดว่า Arbitrum จะสามารถลุ้นขึ้นไปอยู่ Top 10 ได้ใน Bullrun หน้า ซึ่งถ้าหาก M.cap เทียบเท่ากับ Blockchain Layer 1 ตัวหลักใน Cycle ที่แล้วอย่าง ADA, BNB, SOL, DOT ที่ประมาณ 40 – 80b หารกับจำนวน Supply ที่ประมาณ 4b จะได้ราคาประมาณ $10 – $20 ในช่วง Bullrun หน้า
Optimism ($OP)
Optimism เรียกได้ว่าเป็นเชน Layer 2 อันดับ 2 ในตอนนี้รองมาจาก Arbitrum ในตอนนี้เชน Optimism มี TVL อยู่ที่ประมาณ $650m Volume การใช้งาน $50m ผู้ใช้งานประจำอยู่ที่ราวๆ 6หมื่นคน และมีรายได้ทั้งหมดกว่า $20m นับเป็นเชนที่มียอด TVL เป็นอันดับ 6 ของเชนทั้งหมด

ขอบคุณภาพจาก Defillama
ถึงแม้ว่า Ecosystem และ Stats ของ Optimism นั้นจะสู้ Arbitrum ไม่ได้ แต่ Optimism นั้นมี Airdrop และกิจกรรม ที่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาใช้งานบน OP Ecosystem อยู่ตลอด และมี dApps ที่มีผู้ใช้งานอยู่ตลอดอย่าง SNX, Velodrome, Sonne Finance และ dApps อื่นๆที่เข้ามาเชื่อมต่อกับ Optimism
อีกจุดเด่นของ Optimism คือเทคโนโลยี OP Stack ที่เป็นเครื่องมือที่ให้โปรเจต์อื่นสามารถนำไปสร้างเชน Layer 2 ของตัวเองได้ โดยตอนนี้มีเชนอย่าง Base, Mantle, Zora, Worldcoin และอีกหลายโปรเจกต์ใช้อยู่ ซึ่งในอนาคต Optimism ก็จะได้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากเชนเหล่านั้นทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และจะนำรายได้เหล่านั้นกลับมาพัฒนา Optimism Ecosystem
Optimism นั้นมีทีมที่มีความสามารถอันดับต้นๆของโลกคริปโต และยังได้รับการระดมทุนสูงถึง $180m โดยนักลงทุนชื่อดังคล้ายกับ Arbitrum แต่มีหนึ่งสื่งที่ Optimism น่าสนใจคือเหรียญ $OP มี FDV ที่น้อยกว่า $ARB ครึ่งหนึ่งและเหรียญที่ Vesting ของนักลงทุนจะค่อยๆทยอยปลดออกมาทีละนิด และไม่มีการปลดล็อกครั้งใหญ่ ทำให้ในระยะยาวเหรียญ $OP มีโอกาสโตที่สูง
ทางผู้เขียนคิดว่า Optimism จะสามารถลุ้นขึ้นไปอยุ่ Top 15 ได้ใน Bullrun หน้ารองลงมาจาก Arbitrum เล็กน้อย ซึ่งถ้าหาก M.cap เทียบเท่ากับ Blockchain Layer 1 ตัวรองลงมาใน Cycle ที่แล้วอย่าง DOT, LUNA, AVAX ที่ประมาณ 30b – 60b หารกับจำนวน Supply ที่ประมาณ 1.4b จะได้ราคาประมาณ $20 – $40 ในช่วง Bullrun หน้า
โปรเจกต์เหล่านี้ล้วนทีมพัฒนาที่มีชื่อเสียง นักลงทุนเจ้าใหญ่ และสามารถระดมทุนได้มหาศาล นักลงทุนไม่จำเป็นต้องสนใจว่าเหรียญไหนจะเป็นผู้ชนะในอนาคต เพราะยังไงถ้าหากกระแส Layer 2 Blockchain มา สุดท้ายแล้วราคาเหรียญ Layer 2 จะขึ้นทุกเหรียญอยู่ดี ซึ่งการกระจายถือหลายๆเหรียญนั้นเป็นหนึ่งในวิธีลงทุนที่ดีที่สุด
Solana Killer
ถ้าหากพูดถึงคริปโตหลายคนก็จะนึกถึง Blockchain ทางผู้เขียนยังคงคิดว่า Sector ที่อาจจะมีกระแสรองลงมาจาก Layer 2 นั้นก็คงหนีไม่พ้น Blockchain Layer 1 ตัวใหม่ที่มีความน่าสนใจในด้านของเทคโนโลยี ที่จะถูกพูดถึงว่าจะมาแทน Solana หรือเป็น Solana Killer และถ้าหากเหรียญ $SOL กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งเหรียญเหล่านี้ก็อาจจะได้รับกระแสด้วย
Aptos ($APT)
Aptos เรียกได้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ Layer 1 ที่มาแรงมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในตัวเต็ง Solana killer ด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจในเรื่องของ Scalability และ Security ที่เด่นกว่า Layer 1 ตัวอื่น โดย Aptos นั้นมีความเร็ว และค่าแก็สที่ถูกกว่า Solana และนับเป็นหนึ่งใน Layer 1 ที่ถูกและเร็วทีสุดในตอนนี้

ขอบคุณภาพจาก Next 100x Gems
โดยหนึ่งในจุดเด่นหลักของ Aptos คือ Move Language หรือภาษาในการเขียน Smart Contract ที่ถูกพัฒนามาจาก Diem (Libra) ที่เป็นโปรเจกต์บล็อกเชนของ Facebook ซึ่งภาษานี้จะทำให้การเขียน Smart Contract นั้นง่าย และมีประสิทธิภาพมากกว่าภาษาอื่น ทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาโปรเจกต์บน Aptos ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทีมผู้พัฒนาของ Aptos นั้นเป็นทีมที่เคยพัฒนา Diem (Libra) ทำให้เป็นทีมที่ค่อนข้างมีประสบการณ์ในการทำ Blockchain และยังได้รับการระดมทุนสูงถึง $300m โดยนักลงทุนชื่อดังในโลกคริปโต
ทางผู้เขียนคิดว่า Aptos จะสามารถลุ้นขึ้นไปอยุ่ Top 25 ได้ใน Bullrun หน้า ซึ่งถ้าหาก m.cap เทียบเท่ากับ Blockchain Layer 1 ตัวดังๆใน Cycle ที่แล้วอย่าง DOT, LUNA, AVAX ที่ประมาณ 30b – 60b หารกับจำนวน Supply จะได้ราคาประมาณ $55 – $100 ในช่วง Bullrun
Sui ($SUI)
Sui นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเต็ง Solana killer และเป็นโปรเกจต์ Layer 1 ที่คล้ายกับ Aptos ที่มีจุดเด่นที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่ก็มีหนึ่งสื่งที่ทำให้ Sui น่าสนใจมากคือ Sui สามารถ เพิ่ม TPS ของ Blockchain ขึ้นเป็น Unlimited ทำให้เป็น Blockchain ที่ Scale ดีที่สุดในโลก

ขอบคุณภาพจาก Suians
ภาษาในการพัฒนา Smart Contract ของ Sui นั้นใช้เป็น Sui Move ซึ่งเป็นภาษาที่ Sui ได้พัฒนาเพิ่มเติมจากภาษา move ของเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, Blockchain Sui จะเน้นไปที่การพัฒนาเกี่ยวกับ GameFi เป็นหลัก ซึ่งถ้าหาก Sector GameFi กลับมาในอนาคต Sui ก็จะเป็นหนึ่งตัวที่ได้รับผลดีมากที่สุด
ทีมผู้พัฒนาของ Sui นั้นก็เป็นทีมที่พัฒนา Diem (Libra) ที่เป็นโปรเจกต์บล็อกเชนของ Facebook เก่ามาก่อน และสามารถระดมทุนได้สูงถึง $230m จากนักลงทุนชื่อดังในโลกคริปโต ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Sui น่าสนใจคือ M.cap และ FDV ของ Sui นั้นน้อยยังต่ำอยู่พอสมควรทำให้มี upside ที่สูงมากในอนาคต
ทางผู้เขียนคิดว่า Sui เองก็จะสามารถลุ้นขึ้นไปอยุ่ Top 30 ได้ใน Bullrun หน้า ซึ่งถ้าหาก M.cap เทียบเท่ากับ Blockchain Layer 1 ตัวดังๆใน Cycle ที่แล้วอย่าง DOT, LUNA, AVAX ที่ประมาณ 25b – 50b หารกับจำนวน Supply ที่ประมาณ 3.7b จะได้ราคาประมาณ $7 – $14 ในช่วง Bullrun หน้า
Celestia ($TIA)
Celestia เป็นเหรียญที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆนี้โดยเป็น Modular blockchain ตัวแรกในโลกคริปโต ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการ Scaling และสามารถแก้ปัญหาเรื่องของ Blockchain Trilemma โดยการแยกไปพัฒนาแต่ละส่วนได้

ในตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคนพูดถึง Modular blockchain มากนัก แต่ทางผู้เขียนแอบคิดว่าคอนเซ็ปต์นี้อาจจะมาแรงในอนาคต และมีอีกหลายโปรเจกต์ที่กำลังพัฒนา Modular blockchain อยู่ ซึ่ง Celestia เปรียบเสมือนตัวหลักใน Sector Modular Blockchain ทำให้ถ้า Modular เป็นกระแสเมื่อไหร่ $TIA ก็คงได้รับผลดีไปด้วย
Celestia สามารถระดุมทุนได้ $56.5m โดยมี Binance Labs เป็นหนึ่งในนักลงทุน ซึ่ง Celestia นั้นระดมทุนได้ไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับ Layer 1 อื่น แต่ก็ทำให้เหรียญนี้มีราคาที่ถูก และถ้าหากกระแส Modular มาแรงมากก็มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงกว่าเป้าที่ทางผู้เขียนคาดการณ์ไว้ แถมเหรียญ $TIA นั้นยังมีอัตราการเฟ้อที่ลดลงทุกๆปี
ด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจทางผู้เขียนคิดว่า Celestia เองก็จะสามารถลุ้นขึ้นไปอยุ่ Top 50 ได้ใน Bullrun หน้า ซึ่ง M.cap น่าจะอยู่ที่ประมาน 15b – 25b หารกับจำนวน Supply ในช่วงที่ประมาณ 210m จะได้ราคาประมาณ $7 – $12 ในช่วง Bullrun หน้า
เหรียญทั้ง 3ตัวนี้ในตอนนี้อาจจะไม่ได้มี Stat หรือ TVL ที่ยังไม่ค่อยดีมากนัก และยังไม่มี dApps ที่ดึงดูดให้ผู้คนมาใช้งาน แต่เหรียญเหล่านี้มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย ได้รับการลงทุนจากนักลงทุนชื่อดัง บวกกับเป็นทีมนักพัฒนาที่มีความสามารถ ทำให้เป็นเหรียญที่มีโอกาสได้รับความสนใจจากนักลงทุนหน้าใหม่ได้มากกว่าเหรียญอื่นในช่วง Bullrun ครั้งหน้า
DeFi
อย่างไรก็ตาม Sector หลักที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่กระจานศูนย์ ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางและโปร่งใสได้ดีที่สุดคงเป็นโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับการเงินอย่าง DeFi ซึ่ง โปรเจกต์ DeFi ตัวใหม่ๆนั้นมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ และเครื่องมือการเงินใหม่ๆที่ถูกพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมมาจากโปรเจกต์เก่าๆ
Radiant Capital ($RDNT)
Radiant เป็นแพลตฟอร์มกู้ยืมเงินแบบ Cross Chain ที่สามารถทำให้ผู้ใช้สามารถ ฝาก – กู้ เงินข้ามบล็อคเชนได้โดยใช้เทคโนโลยีของ LayerZero แถมตัวเหรียญ $RDNT ยังเป็น OFT-20 ที่สามารถใช้งานได้เหมือนเหรียญ Native บนหลายเชน
Radiant มี TVL ที่ยังคงสูงอยู่ตลอดตั้งแต่ที่อัพเกรดเป็น v2 ถึงแม้ว่าในช่วง 2-3เดือนที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวลงแต่ TVL ก็แทบไม่ลดลงเลย และสามารถเก็บ Protocol Fees รวมได้ถึง $22m และมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และ Fees ส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งไปจ่ายให้คนล็อค dLP (Staking LP บน Radiant) ในรูปแบบ Real Yield

ขอบคุณภาพจาก Defillama
ซึ่งเหรียญ Gov อย่าง $RDNT นั้นจะไม่ได้มีการแจกเป็น Reward มากอย่างเหรียญ DeFi ในอดีตและมีการ Vesting ทำให้ไม่สามารถเทขายได้ในระยะสั้น ส่วนเหรียญ $RDNT ที่ออกมาใหม่นั้นจะมีการเฟ้อที่น้อยลงเรื่อยๆ และยังมี Real Yield ให้สำหรับคนที่ Stake เหรียญทำให้มีกลไกที่ทำให้คนอยากถือเหรียญมากกว่าเทขาย
Radiant นั้นไม่ได้มีการระดมทุนจากนักลงทุนตอนเริ่มโปรเจกต์ และไม่มีการขาย ICO หรือ Private Sell ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะไม่มีแรงเทขายจากรายใหญ่ และในช่วงที่ผ่านมา Radiant ได้รับการระดมทุนและการสนับสนุนเพิ่มจากทาง Binance Labs นอกจากนั้น Radiant ยังได้เข้าร่วมโปรแกรม Arbitrum STIP ทำให้น่าจะมีผู้ใช้งานและรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ทางผู้เขียนคิดว่า Radiant เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มกู้ยืมเงินที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากและอาจจะไปเทียบเคียงกับ MakerDAO หรือ AAVE ในอดีตได้ ซึ่ง M.cap น่าจะอยู่ที่ประมาน 5b หารกับจำนวน Supply ที่ประมาณ 500m จะได้ราคาประมาณ $10 ในช่วง Bullrun หน้า
Pendle ($PENDLE)
Pendle เป็นโปรเจกต์ DeFi แพลตฟอร์มที่มีหลายโปรดักต์ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Yield Trading protocol ที่สามารถให้นักลงทุนเกร็งกำไรผลตอบแทนในอนาคตได้ LSDFi ที่สามารถนำ Staked ETH มาเพิ่มผลตอบแทนต่อได้ และล่าสุดได้เริ่มเชื่อมต่อสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับ Real World Asset เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Pendle เป็นหนึ่งแพลตฟอร์มที่มียอด TVL เติบโตสูงที่สุดในปีนี้ และมีรายได้และผู้ใช้งานอยู่ในระดับที่สูงอยู่ตลอด ซึ่งการที่ Pendle สามารถเกร็งกำไรผลตอบแทนในอนาคตได้ทั้งจาก Staked ETH และทรัพยสินในโลกจริงทำให้ Pendle จะได้รับกระแสเรื่อง LSDFi จากทั้งคนในโลกคริปโต และ Real World Asset จากคนในโลกการเงินแบบดั้งเดิม

ขอบคุณภาพจาก Defillama
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ Supply ของเหรียญ $Pendle นั้นถูกปลดออกมาอยู่ในตลาดกว่า 90% แล้ว ทำให้แทบไม่เหลือแรงเทขายจากเหรียญที่ถูกล็อกอยู่ และราคาของเหรียญ $Pendle นั้นเป็นขาขึ้นมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2023 และเป็นไม่กี่เหรียญที่สามารถ Out Perform Bitcoin ได้ทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของราคาอย่างมาก
ในช่วงที่ผ่านมา Pendle ได้รับการลงทุนและสนับสนุนเพิ่มจาก Binance Labs และได้มีการขยายไปยัง Blockchain หลายเชน ทางผู้เขียนคิดว่า Pendle จะสามารถเทียบเคียงกับ DeFi OG ตัวเก่าๆ ที่มี M.cap ประมาน 5b ได้ โดยราคาใน Bullrun หน้าอาจจะอยู่ที่ประมาน $20
Gmx ($GMX)
GMX เป็นแพลตฟอร์ม Derivatives สำหรับเทรดการ Future On-chain โดยเฉพาะ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของ Real Yield ที่มีการแบ่งรายได้ให้กับผู้ที่ Stake เหรียญ GMX ถือเป็น dApps ประเภท Derivatives ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโตในตอนนี้
GMX เปิดให้ใช้งานบนเชน Arbitrum และ Avax โดยมียอด TVL รวมอยู่ที่ $500m โดยเป็น dApps ที่มียอดการใช้งาน และรายได้ที่เยอะที่สุดบนเชน Arbitrum และมีรายได้อยู่ที่อันดับ 6 ในโลกคริปโต เยอะกว่าเชน Arbitrum ทั้งเชนเสียอีก GMX เป็นแพลตฟอร์มไม่กี่ตัวที่มียอด TVL เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดขาลงปี 2022

ขอบคุณรูปจาก cryptofee.info
จากยอดการใช้งานที่เติบโตบวกกับ Real Yield ที่จ่ายปันผลให้กับผู้ที่ Stake GLP (LP Token ของ GMX) ทำให้ราคาของเหรียญ $GMX นั้นเป็นขาขึ้นมาตลอดในช่วงตลาดขาลงในปี 2022 แถมเหรียญ $GMX ที่ถูก Rewards ออกมาใหม่ก็ถูก Lock และทยอยปลดออกมาทีละนิด แถม Supply ของ GMX ส่วนใหญ่ถูกปลดออกมาแล้วทำให้ในอนาคตจะมีแรงเทขายที่น้อยลง
GMX นั้นเป็นแพลตฟอร์ม Derivatives ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโตตอนนี้ และ Sector นี้ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทางผู้เขียนเลยคาดการณ์ว่า GMX จะสามารถมี M.cap ได้ประมาน 5b และราคาอยู่ที่ราวๆ 300$ – 400$
Meme
นักลงทุนในโลกคริปโตคงหนีไม่พ้นเหรียญ Meme Coin ที่ขึ้นชื่อเรื่องความกาวและผลตอบแทนมหาศาล ใน Bullrun ครั้งนี้เราอาจจะได้เห็น Memecoin หน้าใหม่ๆที่จะเป็นที่พูดถึงเหมือน $DOGE หรือ $SHIB ในครั้งก่อน ซึ่ง 3เหรียญนี้เป็นเหรียญที่มีความน่าสนใจและโอกาสเติบโตสูงบวกกับได้ List อยู่บน Binance แล้วทำให้มีโอกาสตายน้อยกว่าเหรียญนอก Exchange
Ordinal ($ORDI)
เราได้เห็นกระแสเหรียญ BRC-20 ในช่วงต้นปี 2023 โดยจุดเริ่มต้นคือการทดลองที่จะทำให้ Bitcoin สามารถสร้าง “Fungible Token” ได้เหมือนกับ Ethereum ที่สร้าง ERC-20 และ Layer 2 Blockchain ของ Bitcoin นั้นเริ่มเป็นที่น่าสนใจ
หนึ่งในเหรียญ BRC-20 ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ $ORDI ที่สามารถ “Inscript” ข้อมูลต่างๆเช่น ภาพ, เสียง, วีดีโอ ลงใน Sats ของ Bitcoin ได้ ถึงแม้โปรเจกต์ Ordinal นั้นเป็นเพียงโปรเจกต์ทดลอง แต่สามารถรับกระแสตอบรับจากนักลงทุนได้อย่างล้นหลามจนทำให้ได้ List Binance ในช่วงที่ผ่านมา

ขอบคุณภาพจาก Binance
Supply ในตลาดของ Ordinal ถูกปลดออกมาครบแล้วที่ 21m และไม่มีทีม และนักลงทุนที่ถือและควบคุมเหรียญนี้ ทำให้เหรียญนี้ไม่มีแรงเทขายจากส่วนนี้มาก บวกกับได้ความ Decentralized ที่คล้ายกับ $DOGE ทำให้เหรียญ $ORDI อาจจะได้ทั้งกระแส BRC-20 และ MEME ไปในตัว ในช่วง Bullrun หน้า
เรื่องราคาและ M.cap ของเหรียญผู้เขียนไม่สามารถคาดการณ์ในอย่างแน่ชัด แต่ถ้าหาก M.cap ในช่วง Bullrun หน้า อยู่ที่ประมาน 25% ของเหรียญ $SHIB ในช่วง Bullrun ที่แล้ว ราคาจะอยู่ที่ $500 และถ้าสามารถไปได้ถึง 50% ของเหรียญ $SHIB ราคาจะอยู่ที่ประมาน $1,000
Pepe ($PEPE)

ขอบคุณภาพจาก pepe.vip
Pepe เป็นหนึ่งในเหรียญ Meme หน้าใหม่ที่มาแรงมากในปีนี้ และหลังจากถูกสร้างมาได้เพียงแค่หนึ่งเดือนก็ได้ถูก List บน Binance ทันที ด้วยกระแสและความนิยมจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ด้วยความที่มีนักลงทุนจำนวนมากชอบ บวกกับการที่มันถูก List อยู่บน Binance แล้วก็ทำให้หลายคนคิดว่ามันอาจจะกลายเป็น Iconic Meme ในโลกคริปโตเหมือน $DOGE ได้
$PEPE เป็นหนึ่งในเหรียญ Meme ที่โด่งดังที่ไม่เกี่ยวกับหมา โดยเหรียญ Pepe ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากตัวการ์ตูนที่มีชื่อว่า “Pepe the Frog” และทางผู้เขียนก็คิดว่าใน Bullrun หน้า Meme อาจจะไม่ได้จำกัดวงอยู่ในเหรียญที่เกี่ยวกับหมาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
ถึงแม้ Pepe จะมีข่าวไม่ดีเรื่องที่ทีมงานแอบเทขายในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเหรียญ $PEPE ก็เป็นเหรียญ meme ที่ขึ้นแรงเป็นอันดับต้นๆของตลาด แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร็งของ Community และความเชื่อมั่น ทำให้เป็นเหรียญหนึ่งที่น่าถือลุ้นใน Bullrun หน้า
เรื่องราคาและ M.cap ของเหรียญผู้เขียนไม่สามารถคาดการณ์ในอย่างแน่ชัดแต่ถ้าหาก M.cap ในช่วง Bullrun หน้า อยู่ที่ประมาน 50% ของเหรียญ $SHIB ในช่วง Bullrun ที่แล้ว ราคาจะอยู่ที่ $0.00005 และถ้าสามารถไปได้เท่ากับเหรียญ $SHIB ราคาจะอยู่ที่ประมาน $0.0001
Meme Land ($MEME)
เหรียญ $MEME ถูกสร้างขึ้นโดย 9GAG เว็บไซต์เกี่ยวกับมุกตลกที่โด่งดังอันดับต้นๆของโลก และนอกจากเหรียญ ทางโปรเจกต์ยังมี NFT Collection ใหญ่ๆอีกมากมาย ซึ่งความน่าสนใจของโปรเจกต์นี้นี้ทำให้เหรียญ $MEME ได้ List บน Binance ตั้งแต่วันที่เปิดตัว

ขอบคุณภาพจาก Binance
ทางโปรเจกต์บอกว่าเหรียญนี้ไม่มี Utility และ Roadmap แต่ถ้าหากฟังจากการสัมภาษณ์ก็อาจจะได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจอย่าง “Social Staking” ที่จะรวม Proof of Stake กับ NFT และเราอาจจะได้เห็นการ Collab ของ Memeland กับ โปรเจกต์ในโลก Web2 ใหญ่ๆมากมาย นอกจากนั้นยังอาจจะมีการสร้าง Game หรือ Metaverse ในอนาคต
ตัวเหรียญของ Meme Land นั้นใช้ Ticker ว่า $MEME โดยตรงทำให้สิ่งนี้เป็นจุดขายที่น่าสนใจมาก เพราะถ้าหลายคนนึกถึงเหรียญ Meme ก็อาจจะคิดถึงเหรียญ $MEME เป็นอย่างแรก อีกทั้งชื่อนี้ยังได้ความสนใจใน Social Media ได้เป็นอย่างดี
เหรียญ Memecoin นั้นอาจจะขึ้นได้เยอะกว่าที่คิดไว้หรืออาจจะตายไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหาก M.cap ของเหรียญ $MEME ในช่วง Bullrun หน้า อยู่ที่ประมาน 50% ของเหรียญ $SHIB ในช่วง Bullrun ที่แล้ว ราคาจะอยู่ที่ $0.5 และถ้าสามารถไปได้เท่ากับเหรียญ $SHIB ราคาจะอยู่ที่ประมาน $1
เหรียญ Meme ทั้ง 3ตัวนี้ถึงแม้เป็นเหรียญที่ List บน Binance แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีคนสนใจ หรือตายได้ ทางผู้เขียนจึงแนะนำว่าให้ทำการคำนวนความเสี่ยงให้ดีก่อนที่จะซื้อ และซื้อด้วยเงินที่เสียได้จริงๆ
บทสรุป
เหรียญทั้งหมดใน List นี้เป็นเหรียญที่ทางผู้เขียนคิดว่าจะสามารถทำผลตอบแทนได้ดีใน Bullrun ครั้งหน้า และหนึ่งในวิธีทการลงทุนที่ดีคือการกระจายถือหลายๆเหรียญตามสัดสวน อย่า All in เหรียญใดเหรียญเดียว และพยายามหาจังหวะเข้าซื้อที่ดี โดยอาจจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการ DCA รอราคาย่อลงมาแล้วค่อยซื้อ หรือวิธีอื่นๆที่นักลงทุนถนัด
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดการณ์จากผู้เขียน ในความเป็นจริงเหรียญเหล่านี้อาจจะสร้างผลตอบแทบที่ไม่ดี หยุดพัฒนา หรือโดนแฮ็กก่อนที่จะถึง Bullrun ก็เป็นได้ นักลงทุนทุกคนจึงจำเป็นต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังและคำนวณความเสี่ยงต่างๆ ให้เรียบร้อย
คริปโทเคอร์เรนซี่และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต