จากเหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความแตกตื่นบนโลกคริปโท นั่นก็คือปัญหาของ Multichain ที่มีข่าวลือว่า CEO Zhao Jun ถูกตำรวจจีนจับกุม และเกิดความเคลื่อนไหวแปลกๆจาก Wallet ของ Team
ขอบคุณภาพจาก coincu
สถานการณ์ของ Multichain
โดยสถานการณ์เริ่มจากเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2023 ได้มีข่าวลือว่า ผู้บริหารหลายคนถูกทางการจีนจับกุม ซึ่งรวมถึง Zhao Jun ที่เป็น CEO ของ Multichain ที่ได้ขาดการติดต่อจากทีมไป
หลังจากนั้นก็ได้มี Tweet จาก Qian Dejin ที่เป็น CEO ของ Fusion Foundation และเป็นอดีต Co-founder ของทาง Multichain
ซึ่งข้อมูลจาก blockworks ได้เขียนไว้ว่า สำนักข่าว PANews ได้รายงานข่าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทีมที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง Yuan-Backed Stablecoin ที่ออกโดย Trust Reserve (อดีต CNHG Group) ได้ถูกควบคุมตัวโดยตำรวจท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันออฟฟิศของ Trust Reserve ก็ได้กลายเป็นพื้นที่โล่งเรียบร้อยแล้ว คนเลยสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้มีความเชื่อมโยงกัน เพราะมีความเกี่ยวข้องกับอุตสหกรรมคริปโทในจีนทั้งสิ้น
ขอบคุณภาพจาก PANews
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Zhao Jun
โดยความเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของ Zhao Jun คือเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 2:53PM ก่อนที่จะขาดการติดต่อไป ซึ่งจากเนื้อหาข่าวลือจากแหล่งต่างๆบอกว่า ตำรวจจีนได้ทำการยึดเงินทุนตีเป็นมูลค่ากว่า $1.5B และคาดว่าตอนนี้อยู่ในการควบคุมของตำรวจจีนเป็นที่เรียบร้อย แต่จากเนื้อหาทั้งหมดยังเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือหรือไม่ แต่ก็ทำให้ทาง Binance ได้ประกาศทำการระงับการฝาก 10 เหรียญที่เกี่ยวข้องกับ Multichain และ Bridge ทั้งหมด ทำให้ผู้คนเกิด Panic จนแห่กันไปเทขายบน Gate.io แทนจนราคาร่วง -54% ภายใน 4 วัน
Multichain คืออะไร
Multichain (ชื่อเก่า Anyswap) เป็นแพลตฟอร์ม Cross-chain Bridge ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 และระดมทุนได้กว่า $60M เลยทีเดียว ปัจจุบันมี TVL 1.52B ข้อมูลจาก Crunchbase บอกว่า Headquarter อยู่ที่ Singapore นั่นเอง
ข้อมูลจาก Linkedin จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีพนักงานอยู่ 26 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศจีน ซึ่งสอดคล้องกับข่าวลือที่ว่า CEO ถูกทางการจีนจับกุม ซึ่งทำให้หลายคนคงหายสงสัยว่าไปถูกจับในประเทศจีนได้ยังไง และอาจจะอนุมานได้ว่าโปรเจกต์นี้ดำเนินการโดยคนจีนเป็นส่วนใหญ่
ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากทีม Multichain
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 66 ได้มี Tweet ล่าสุดจาก Twitter ของทีมได้ประกาศว่า
“ ณ ตอนนี้ทีมเจอปัญหารอบด้านพอสมควร และทางทีมพยายามอย่างมากเพื่อที่จะรันระบบต่อไปได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถติดต่อกับ CEO Zhaojun ได้ เพื่อที่จะขอสิทธิ์ในการเข้าถึง Server ที่จำเป็นต่อการดำเนินการระบบ”
โดยทีมได้พบปัญหาของ Scanning Node ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งาน Cross-chain ในบางเชน ซึ่งปัญหานี้เกินความดูแลของทีมเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึง Server ได้ ทำให้ทีมขอหยุดให้บริการ Cross-chain ในบางเชน และหยุดการใช้งาน Smart Contract บนเชนดังกล่าวต่อไปนี้คือ
“Kekchain, PublicMint, Dyno Chain, Red Light Chain, Dexit, Ekta, HPB, ONUS, Omax, Findora, Planq.”
ซึ่งเราก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าปัญหานี้จะลามมากระทบต่อเชนหลักๆอย่างบน Ethereum และ Alternative Layer 1 ตัวอื่นๆหรือไม่
ปัญหาและผลกระทบที่ตามมา
1.ราคา $MULTI (ร่วงยับ)
ซึ่งจะเห็นเลยว่าตั้งแต่วันที่ CEO Zhaojun หายตัวไปวันที่ 24 พฤษภาคม 66 ราคาก็ร่วงทันที -54.39% จากนั้นจึงเด้งกลับ และไหลลงต่อจากความไม่ชัดเจน และยังหาทางออกไม่ได้ว่าโปรเจกต์จะยังไงต่อ ซึ่งบางคนคงสงสัยว่าแล้ว Multichain คือโปรเจกต์อะไร แล้วทำไม CEO ถึงถูกจับที่จีนได้
2.TVL ร่วง
หลังจากเหตุการณ์การหายตัวของ CEO ถ้ามาดูในมุมของ Total Value Locked (TVL) จะเห็นได้ว่ามีการปรับตัวลง เงินไหลออกจาก DApp จาก $1.59b → $1.45b คิดเป็นหายไปกว่า -8.80% เลยทีเดียว ซึ่งจากข้อมูลค่อนข้างตอบสนองต่อข่าวลือพอสมควร และคิดว่าอาจจะยังไม่จบแค่นี้
3.Binance ระงับการฝาก $MULTI และเหรียญที่เกียวกับ Bridge
ในวันเดียวกันนั้นเองทาง Binance ก็ออกประกาศการระงับการฝาก 10 เหรียญที่เกี่ยวข้องกับ Multichain จากความไม่ชัดเจนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะจบลงยังไง ทำให้คนที่ถือครองเหรียญกลุ่มดังกล่าว จึงหันไปเทขายเหรียญบน Gate.io แทน
4.Wallet ของทีมโอน $MULTI ไปเทบน Gate.io
Gate.io มี Net Outflow กว่า $130M โดยคิดเป็น 10% ของ เงินสำรอง (Exchange’s Reserve) ที่มีอยุ่ราว $1.26B ซึ่งทาง Exchange ก็ได้ประกาศว่าเหตุการณ์ยังคงปกติ ไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยงยังคงฝากถอนได้ตามปกติ
5.คนแห่นำ $MULTI ไปฝาก Gate.io เพื่อเท
เมื่อมีข่าวลือการหายตัวไป ก็มีคนสังเกตุ On-chain เห็นว่าก็เหล่า Smart Money ต่างๆก็แห่กันโอน $MULTI เพื่อไปเทบน Gate.io ทำให้คนเกร็งว่าจะเกิดปัญหาสภาพคล่องของ Exchange จากการที่ Net flow ติดลบพอสมควร
6.Fantom Foundation ถอน Liquidity Multi/WETH
เมื่อเช็คจาก Etherscan จะเห็นว่าทาง Fantom Foundation ก็ได้เกิด Action ต่อเหตุการณ์โดยการถอด LP MULTI/WETH ออกจาก Sushiswap เพื่อป้องกันการขาดทุนจาก impermanent loss โดยตีเป็นมูลค่าเกือบ $5M โดยหลังจากได้ทำการถอด LP ทาง Fantom ก็ยังคงถือ $MULTI ไว้ต่อโดยไม่มีการนำไปขายแต่อย่างใด
มุมมองวิเคราะห์ต่อเหตุการณ์
จากสถานการณ์ล่าสุดทุกอย่างยังคงเป็นเพียงข่าวลือ และทีมก็ยังไม่สามารถยืนยันข่าวได้ ทำได้เพียงแต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถติดต่อกับทาง CEO ได้ และไม่สามารถเข้าถึง Server สำคัญๆในการแก้ปัญหาระบบล่มได้ทำให้ต้องหยุดให้บริการ Bridge ในบางเชนไป ซึ่งผลกระทบที่ตามมาก็หนักพอสมควรซึ่งพอได้กลิ่นความผิดปกติพอสมควรทั้งจากทีมเองและจากกลุ่ม Holders ที่นำเหรียญไปเทยัง CEX ต่างๆ
โดยถ้าดูจาก Liquidity ของทางโปรเจกต์แล้วนั้น ปัจจุบัน Multichain มี Total Value Locked (TVL) อยู่ที่ $1.45B โดยมี TVL กระจายไปยังเชนต่างๆ
ขอบคุณภาพจาก Defilhama
โดยเชนที่มี TVL เยอะที่สุดคือ Ethereum , BSC และรองลงมาคือ Fantom ตามลำดับ โดยแน่นอนว่าสถานการณ์น่าจะยังไม่ถึงจุดคลี่คลาย และมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายกว่านี้ก็เป็นได้ ซึ่งเรามองว่า Liquidity พวกนี้ก็มีโอกาสที่ User จะดึงกลับ Wallet เพื่อป้องกันความเสี่ยงและคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเชนต่างๆในด้านสภาพคล่อง
ผลกระทบในแต่ละเชนจะโดนหนักไม่เท่ากันโดยต้องดูจาก TVL ของ Multichain ในแต่ละเชน ว่าคิดเป็นสัดส่วนกี่ % ของ Total TVL
- Ethereum TVL = $27B / $741M คิดเป็น 2.74%
- BSC TVL = $4.38B / $397M คิดเป็น 9.06%
- Fantom TVL = $211M / $97M คิดเป็น 45.97%
- Fusion TVL = $171M / $64M คิดเป็น 37.42%
- Arbitrum TVL = $2.33B / $55M คิดเป็น 2.36%
- Optimism TVL = $891M / $45M คิดเป็น 5.05%
- Avalanche TVL = $700M / $20M คิดเป็น 2.85%
- Polygon TVL = $1.02B / $12M คิดเป็น 1.17%
จากการดูสัดส่วนของ TVL Dominance ในแต่ละเชนจะเห็นว่า Fantom ค่อนข้างที่สุ่มเสี่ยงที่สุดต่อปัญหาจาก Multichain หาก Liquidity ไหลออก ซึ่งจากคิดเป็น 45.97% ของ TVL เลยทีเดียวที่เป็นของ Multichain และข้อมูลเพิ่มเติมได้บอกว่า มี Tokens หลายตัวบน FTM ที่ Mint โดย Multichain ซึ่งควรจับตาอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่อาจเกิดกับเชน Fantom
แนวทางป้องกัน
1.หากมีการฝาก Liquidity บนนั้น แนะนำให้ Remove LP ออกมาก่อนเพื่อป้องกันความเสียหายจาก Impermanent loss และ Protocol ที่อาจจะต้องหยุดให้บริการ
2.หลีกเลี่ยงการถือครองเหรียญ $MULTI เพราะสถานการณ์ ณ ตอนนี้ยังไม่แน่นอน
3.ถอนเหรียญออกมาจาก CEX เช่น Gate.io เพราะอาจเกิดโดมิโน่ได้
4.งดการถือเหรียญ FTM และใช้งาน Fantom ecosystem ก่อน เพราะอาจโดนผลกระทบได้ หากสถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม