หลายคนคงได้ยิน Narrative เรื่อง Decentralized Science (DeSci) ตั้งแต่ที่ Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum และ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance ปรากฎตัวในงานพูดคุยเกี่ยวกับ DeSci ที่ประเทศไทยในช่วง DevCon ที่ผ่านมา
สำหรับคนที่ยังตามไม่ทัน Decentralized Science เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการที่นักวิจัยเข้าถึงเงินทุนได้อย่างยากลำบากโดยนำเทคโนโลยี Blockchain มาปรับใช้ในวงการวิทยาศาสตร์ แนวคิดหลักคือการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง ให้นักวิจัยสามารถดำเนินการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุน การเผยแพร่ผลงาน หรือการร่วมมือกับนักวิจัยคนอื่นๆผ่านการสร้าง Research DAO เพื่อระดมทุนจากประชาชนที่สนใจได้โดยตรง ผู้ที่ร่วมลงทุนจะได้รับ Token ซึ่งมีสิทธิในการรับผลตอบแทนหากโปรเจกต์ประสบความสำเร็จ วิธีนี้ทำให้นักวิจัยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งทุนแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว
DeSci ยังช่วยปฏิวัติระบบการตีพิมพ์ผลงานวิจัยด้วย แทนที่จะต้องส่งบทความไปให้วารสารพิจารณา นักวิจัยสามารถเผยแพร่ผลงานบน Blockchain ได้ทันที โดยระบบ Peer Review จะเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาช่วยตรวจสอบและให้ความเห็น ซึ่งทำให้กระบวนการเร็วขึ้นและโปร่งใสมากขึ้น เพราะทุกความเห็นจะถูกบันทึกไว้บน Blockchain
นอกจากนี้การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาก็เป็นอีกจุดเด่นของ DeSci โดยนักวิจัยสามารถสร้าง IP-NFT (Intellectual Property NFT) เพื่อจดสิทธิบัตรหรือลิขสิทธิ์ผลงานวิจัยได้ ซึ่งทำให้พวกเขามีอำนาจในการจัดการผลงานของตัวเองอย่างเต็มที่ สามารถขายสิทธิ์หรือให้ใช้งานต่อได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Protocol ที่เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้คนมาสร้าง Research DAO ได้ง่ายๆ ที่หลายคนให้ความสนใจกันมากในเวลานี้ ก็คือ Bio Protocol โดย DAO ที่เปิดตัวผ่าน Bio Protocol นั้นมีกว่า 10 DAO แล้วด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น
VitaDAO – ทำการวิจัยเกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว
AthenaDAO – ทำการวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพของผู้หญิง
HairDAO – ทำการวิจัยเกี่ยวกับผมเสีย ผมร่วง
Long Covid Labs – ทำการวิจัยเกี่ยวกับอาการ Long Covid
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ BIO Protocol คือ Binance Labs ได้ประกาศว่ามีการลงทุนใน BIO Protocol ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นก่อนที่ CZ จะไปปรากฎตัวที่งาน DeSci ช่วง DevCon เพียงไม่กี่วัน
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าทาง Binance Labs ไปลงทุนในรอบเดียวกับคนทั่วไปหรือรอบ Public ที่ซึ่งจะได้ราคาที่สูงกว่า Private Round ต่างๆ ซึ่งแสดงถึงความสนใจของทาง Binance อย่างมาก และทำให้ BIO มีแนวโน้มสูงมากๆว่าจะได้ลิสที่ Binance
และ BIO Protocol กำลังเปิด Proposal ที่จะทำให้ $BIO สามารถ Transferable ได้ซึ่งในตอนนี้มีคนโหวตเห็นด้วยกว่า 99.95% โดยใน Proposal กล่าวว่าจะปิดโหวตในวันที่ 23 ธันวาคมหรือวันจันทร์นี้และจะดำเนินการภายใน 14 วัน
ทางเราคาดว่าในช่วงที่ $BIO เปิดตัวจะทำให้กระแสของ DeSci กลับมาอีกครั้ง
ส่วนโปรเจกต์อื่นๆ ที่น่าจับตามองนอกจาก BIO ก็มี เหรียญจาก Pump.science ที่เป็น Launchpad สำหรับโปรเจกต์ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับการมีอายุยืนยาวของมนุษย์ และมีการ Launch Token บน Pump.fun พร้อมคลิปเพื่อให้ติดตามผลอยู่ตลอด ซึ่งผู้ถือโทเคนสามารถเดิมพันได้ว่าสารตัวไหนมีโอกาสประสบความสำเร็จในการยืดอายุมากที่สุด โดยในปัจจุบันมีอยู่ 2 โปรเจกต์คือ
Rifampicin ($RIF) : เป็นยาปฏิชีวนะที่สำคัญสำหรับการรักษาโรคติดเชื้อ
Urolithin A ($URO) : เป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพเซลล์และอาจมีบทบาทในการชะลอวัย
ซึ่งในช่วงที่กระแส DeSci กำลังร้อนแรง สองเหรียญดังกล่าวก็มีการปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าได้อย่างรวดเร็วโดยราคา $RIF พุ่งจาก Market Cap ประมาณ $1m ไปทำสุดสูงสุดที่ 248m หรือ 248 เท่าได้ในเวลาเพียง 4 วัน ส่วน $URO ก็พุ่งจาก Market Cap ราว $1m ไปทำสุดสูงสุดที่ 151m หรือ 151 เท่าได้ในเวลาเพียง 4 วัน เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งคือ Big Pharmai ที่เป็น DeSci DAO บน Solana ที่เปิดตัวผ่าน DAOs.fun ที่มีหลักการทำงานคร่าวๆ คือ ใครๆ ก็สามารถมาสร้าง DAO และระดมทุนจากนักลงทุนได้บนแพลตฟอร์ม โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกใช้ในการซื้อโทเค็นต่างๆ คล้ายกับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น Berkshire Hathaway ของ Warren Buffet
ซึ่ง Big Pharmai จะเป็นกองทุน DAO ที่จะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปลงทุนในโปรเจกต์ DeSci ต่างๆ โดยมีตัวเหรียญคือ $DRUGS ด้วยเหตุนี้จะทำให้สามารถมองได้ว่าเหรียญ $DRUGS เปรียบเสมือน Berkshire Hathaway ของฝั่ง DeSci นั่นเอง
แต่ยังไงการลงทุนใน Sector นี้ก็ต้องระมัดระวังเนื่องจาก AUM ห่างจาก Marketcap ของ $DRUGS พอสมควร ซึ่งจะมองว่า Overvalue ก็ไม่ผิด แต่ก็อาจมีแรงเก็งกำไรสูงในช่วงที่คนให้ความสนใจจนทำให้ราคาขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผลได้https://x.com/gadgeteerth/status/1868911954758451509