Macroeconomics: Fed จะคงดอกเบี้ยถึงเมื่อไหร่?
- การประชุม FOMC ของ Fed ล่าสุดในเดือนกันยายนคือตัดสินใจคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตามระดับเงินเฟ้อ Month-on-month ยังมีการเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.3% ทำให้ระดับเงินเฟ้อยังห่างไกลกับที่ Fed ต้องการ (Fed ต้องการที่ 2%)
- นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯยังแสดงความแข็งแกร่งมาก รวมถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปี 2023 นี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ชัดเจนคือ ตลาดยังไม่แน่ใจว่า Fed จะคงดอกเบี้ยไปถึงเมื่อไหร่ ถ้าดูจาก CME group จะเห็นว่าตลาด Price in ว่าจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าอาจจะคงนานกว่านั้นก็ได้ เช่น อาจคงจนถึง เดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ตลาดอาจจะปรับลงอีก โดยถ้าดูจาก Dot plot ตัวเลขบอกว่า Fed จะคงดอกเบี้จนกว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงต้องจับตาดูอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
- มุมมองในการลงทุน ในเดือนกันยายนตลาดร่วง (อ่านเพิ่มได้ที่นี่) แต่นักวิเคราะห์มองว่ายังมีเวลาในการ DCA ได้อีกสักระยะ โดยยังมีความเป็นไปได้ว่าตลาดจะ Flash crash ให้เก็บของไม้ใหญ่ๆได้อีกด้วย (อาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดร่วงได้ เช่น สงคราม หรือการที่ SEC regulate DeFi เป็นต้น) ส่วนตัวที่จะลงทุนยังคงมุมมองคล้ายเดิมคือเน้นตัวใหญ่ อย่าง BTC, ETH ส่วน Alt coin ก็อาจจะเริ่มทยอยเก็บในตัวที่มี Narrative ที่น่าสนใจใน Bull run หน้า
Altcoin และเทรนด์ที่น่าจับตามอง
- Arbitrum Short-term incentive program: Arbitrum มีแผนจะแจก Incentive สำหรับ DApps ต่างๆ โดยจะเริ่มแจกประมาณปลายเดือนมกราคม 2024 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าคนจะพูดถึง Arbitrum มากขึ้น TVL เพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อทั้งเหรียญ ARB และเหรียญของ Ecosystem ได้ โดยเหรียญ Ecosystem ที่มีโอกาสได้รับประโยชน์ อย่างเช่น
- HMX: นักวิเคราะห์มองว่ากราฟเหมือนกำลังสร้างฐาน ราคาเหรียญปรับตัวลงมาเยอะแต่ว่า TVL และ Metrics การใช้งานต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงด้านราคาเหรียญ เพราะข้อจำกัดของการปรับขึ้นของราคา HMX คือนักวิเคราะห์มองว่าจะมีเพดานเป็นราคาเหรียญ GMX ทำให้ราคาอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก โดยอาจใช้การฝาก HLP (คล้าย GLP) จะได้รับ Yield ช่วงนี้ประมาณ 30% โดย Yield มาจากค่าธรรมเนียมการใช้งานบนแพลตฟอร์มและ esHMX ที่เป็น Incentive เพิ่มเติม
- Pendle: Cencept ของ Pendle คือทำให้คนทั่วไปเข้าถึงหลักการของ Interest rate swap ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม FDV ค่อนข้างเยอะแล้วควรระมัดระวัง
- Radiant, STG, Camelot: มี TVL ใหญ่เป็นอันดับสามบน Arbitrum ทำให้มีโอกาสได้รับประโยชน์จาก Incentive เช่นกัน
- RWA: คนเริ่มพูดถึง Sector นี้ค่อนข้างเยอะ รวมถึงมี TVL เติบโตขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่าจะเป็นกลุ่มที่น่าได้รับประโยชน์จากการที่มีเงินใหม่เข้ามาจากรายย่อยและจากสถาบัน เหรียญกลุ่มนี้ที่น่าจับตามองเช่น Centrifuge, Maple, Ondo, Goldfinch เป็นต้น อย่างไรก็ตามราคาเหรียญกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ถูกมากนัก แต่สามารถมองยาวๆไปถึง Bull run ได่ ข้อจำกัดของ RWA คือ Use case ของเหรียญ, มีขั้นต่ำการฝาก, ต้องมีการ KYC, มีการล็อคเงินระยะเวลาหนึ่ง
- Goldfinch: ตัวอย่างเช่น Goldfinch ผู้ใช้งานสามารถฝากเหรียญ Stablecoin เพื่อที่ทางโปรโตคอลจะนำเงินไปปล่อยกู้ให้กับ Corporate และผู้ฝากจะได้รับ Real yield
- OpenEden: เป็นอีกโปรเจกต์ RWA ที่นักวิเคราะห์มองว่าน่าจับตามอง ยังไม่มีเหรียญ แต่ว่าอาจฝากเงินเพื่อเก็งรับ Airdrop ได้ และได้รับ 5% Yield จาก T-bill คล้ายกับ Ondo finance
- Optimism: มีข่าวว่าทาง Optimism ขายเหรียญมูลค่าราว 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ว่าจะเป็นการขายแบบ OTC และถูกล็อคสองปี ดังนั้นจะไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าวว่าจะมี Sell pressure ต่อเหรียญ OP
- Polygon CDK: Polygon CDK จะคล้ายกับ OP stack โดยมีข่าวคือมีโปรเจกต์อย่าง Canto และ Celo จะมาใช้เทคโนโลยีของ Polygon CDK
- Base: ทาง Chielf legal officer ออกมาพูดว่าการออกเหรียญ Base จะยังไม่ถูกตัดออกจากสมการ แต่นักวิเคราะห์มองว่าการออกเหรียญอาจไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะว่าะต้องเจอด่าน SEC ด้วย นักวิเคราะห์ยังให้น้ำหนักกับการเก็ง Airdrop เหรียญ zkSync, Linea ดีกว่า โดยสำหรับ zkSync เราสามารถเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นไดเถึงโอกาสการได้รับ Airdrop ในเว็บ zksync.netlify.app เพื่อดูเบื้องต้นได้ (เป็นการคาดการณ์เท่านั้น)
.
คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต