Macro/BTC

- จากการประชุม FOMC ในเดือนมีนาคนที่ผ่านมา Fed มองว่าจะเกิด Mild recession ขึ้นในช่วงประมาณปลายปี 2023 นี้และน่าจะใช้เวลาในการ Recover 2 ปี สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากวิกฤติธนาคารที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ทำให้จำนวนเงินฝากลดลงอย่างมากเพราะคนสามารถได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าใน Momey market และ Treasury bills ส่งผลให้ธนาคารมีเกณฑ์ปล่อยกู้ยากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่คนต้องการเงินกู้มากที่สุดในรอบสิบปี อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าจากการประเมินสถานการณ์ Recession อาจจะรุนแรงกว่าที่คิดก็เป็นได้เช่นกัน

- จาก Dot plot ล่าสุด สามาชิก Fed ส่วนมากกว่า 50% มองว่าน่าจะขึ้นดอกเบี้ยไปสูงกว่า 5% (ตอนนี้ 4.75%) อย่างไรก็ตามทาง Fed น่าจะต้องพิจารณาจากความรุนแรงของ Recession ก่อน ถ้าขึ้นดอกเบี้ยแรงไปก็อาจจะทำให้ Mild recession กลายเป็น Severe recession ได้ ให้รอติดตามสถานการณ์ในเดือนมิถุนายนอีกครั้ง แต่ตอนนี้ Consensus คือเดือนมิถุนายนน่าจะขึ้นอีก 50 bps
- ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบันเริ่มชะลอตัวลงโดยส่วนมากมีผลมาจากราคาพลังงานที่เริ่มลดลง แต่ฝั่งค่าเช่าบ้าน, Service และ Consumer spending ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์ยังคงมุมมองเดิมว่าตอนนี้ความกังวลอยู่ที่ Recession มากกว่าเงินเฟ้อในปีนี้
- ส่วนมุมมองของการลงทุน นักวิเคราะห์มองว่าด้วยสถานการณ์ Macro ที่โดยรวมยังดูไม่ค่อยดี จึงมองว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโทฯมี Upside จำกัด และมองว่าตลาดมีโอกาสย่อมากกว่าในระยะสั้น ถ้ายังไม่มีปัจจัยอะไรมาดันราคาขึ้นไป ตลาดน่าจะพักตัวก่อน โดยราคา BTC มีโอกาสลงมาพักที่ 24,000 ดอลลาร์ และ ETH มีโอกาสลงมาพักที่ 1,500-1,600 ดอลลาร์ ส่วนถ้าใครสะสมระยะยาวก็มองว่าเป็นราคาที่สะสมได้ ถ้าใครรอได้อาจจะรอเข้าสะสมในช่วงที่จุด Peak ของดอกเบี้ย ที่อาจจะขึ้นไป Peak ที่ 5.25% ในช่วงเดือนมิถุนายน
Theme การลงทุนที่น่าจับตามอง
- ช่วงนี้เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่าตลาดมี Upside น้อยกว่า Downside จึงยังมองว่าการลงทุนในเหรียญใหญ่อย่าง BTC, ETH ดีกว่าลงทุนในเหรียญ Alt coin เล็กๆที่มีโอกาสปรับตัวลงมากกว่า


- อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้แชร์ข้อมูลจากรายงาน Big ideas 2023 จาก Ark Invest ที่ได้พูดถึงโอกาสในการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม Crypto assets ที่ทาง Ark มองว่ามีโอกาสเติบโตไปมีขนาด Market ที่ 25 Trillion ดอลลาร์ในปี 2023 โดยเราสามารถเข้าไปศึกษาว่ามีกลุ่มไหนของคริปโทฯที่ทาง Ark มองบวกไว้บ้าง อย่างเช่น
- Smart Contract Network: ทาง Ark มองว่าในอนาคต Smart contract network จะสามารถสร้างรายได้จากค่า Fee ได้เยอะมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า จะมีการลงทุนจากโลก Traditional เข้ามาผ่านการ Tokenized assets

2. Ethereum Layer 2: ทาง Ark มองบวกต่อ Optimism และ Arbitrum เพราะจำนวน Transaction บน Arbitrum กับ Optimism รวมกันตอนนี้เทียบเท่ากับ Ethereum แล้ว นอกจากนี้จำนวน Average daily active address ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

3. DeFi: ที่จากแนวแนวการใช้งานอย่าง Trading volume เพิ่มขึ้นกว่า 12 เท่าในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2020 โดยทาง Ark มีมุมมองบวกต่อ DeFi ในอนาคตเพราะเหตุผลอย่างเช่น การไม่มีตัวกลาง ความโปร่งใส เป็นต้น
4. Public Blockchain: ทาง Ark มองว่า Public blockchain มีศักยภาพที่จะรองรับ Revolution หลายอย่าง เช่น Financial revolution, Internet revolution และ Smart contracts ที่จะผลักดันการเติบโตของโลกในอนาคต

5. Artificial intelligent: จะเข้ามาช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงานของคนได้เยอะมาก และช่วยลดต้นทุน

6. Digital Wallet: แนวโน้มการใช้งาน Digital wallets เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทาง Ark ยังมองว่าจะเติบโตขึ้นไปได้อีกมากในอนาคตเพราะเป็น Financial infrastructure ที่สำคัญต่อ e-commerce, DeFi และอื่นๆ

.
คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต