Search
Close this search box.

สรุป CoinTalk ประจำวันที่ 10/3/23

Reading time 2 Mins
Share :
Untitled2

Table of Contents

Macroeconomics

  • สัญญาณที่ยังเป็นลบจากตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้น: การว่างงาน (Job opening) เพิ่มขึ้นจาก 190,000 ตำแหน่ง สู่ 211,000 ตำแหน่ง ที่ยังขัดไม่ให้ Wage growth ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น Fed อาจจะยังต้องขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งอีกในปีนี้ (เงินเฟ้อส่วนใหญ่มาจากตลาดแรงงาน ดังนั้น Fed จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อเพิ่มต้นทุนให้บริษัทลดจ้างงานนั่นเอง)
  • อย่างไรก็ตามเริ่มสัญญาณบวกจากการคาดการณ์ว่าตลาดแรงงานน่าจะกำลังแย่ลงแล้ว: ตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมาสหรัฐฯมีการ Layoff เพิ่มขึ้น และการจ้างงานที่ลดลงกว่า 6.5% ในทุกอุตสาหกรรมเป็นผลมาจากการทำ QT ซึ่งเริ่มเป็นไปตามที่ Fed ต้องการ เพราะจะช่วยลด Wage growth และกดเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ถึงแม้ว่าตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้นมาจะดูน่ากังวล แต่ถ้าดูจากการคาดการณ์ Job opening มีแนวโน้มจะลดลงในเดือนหน้า ให้รอติดตามตัวเลข Unemployment และ Non-farm payrolls ที่จะประกาศในวันที่ 10 มีนาคมนี้ประกอบด้วย แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขน่าจะออกมาชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังแย่ลง 
  • สาเหตุอื่นๆที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยได้อีกไม่มากแล้ว: หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือเนื่องจากว่า Debt:GDP ratio ของสหรัฐสูงจนเต็ม Debt ceiling แล้ว และภาพของ Recession ก็เริ่มชัดมากขึ้น ซึ่งถ้าขึ้นไปสูงถึงระดับ 5.75% น่าจะเกิด Hard landing ที่ Fed ไม่น่าจะยอมให้เกิด นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่า Fed น่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งที่ระดับ 0.25% และน่าจะ Pivot ในช่วงประมาณ Q2-Q3 
  • นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Silicon Valley Bank (SVB) ที่มีความเสี่ยงจะล้ม กดดัน Fed ไม่ให้ขึ้นดอกเบี้ยมากไปกว่านี้ สรุปเรื่องเกี่ยวกับ SVB สั้นๆคือ SVB เคยเติบโตก้าวกระโดดในยุคฟองสบู่ Startup 3 ปีก่อนจากการทำ QE แต่พอ Fed ขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินมันแพงขึ้น จึงทำให้ตลาด Startup วายและ SVB มีฐานเงินฝากลดลงทำให้เกิดขาดทุน (ร่วมกับการขาดทุนจาก MBS) จึงมีความกังวลเกิดขึ้นมาว่าอาจจะเกิด Bank run และลุดลามไปที่ธนาคารอื่นๆได้
  • มุมมองการลงทุน: นักวิเคราะห์ยังมองว่าเป็นช่วงเวลาสะสมที่ดีเพราะมุมมองเอนเอียงไปทาง Fed จะ ขึ้นดอกเบี้ยสุดที่ 5% และ Pivot เร็วๆนี้ ทำให้ตลาดน่าจะ Sideway และ BTC ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า $18,000 จนกว่าจะมี Bitcoin halving อย่างไรก็ตาม Worst case scenario คือถ้า Fed ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป หรือเกิดมีเหตุการณ์อะไรล้มขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นปัจจัยนอกคริปโตฯ หรือปัจจัยเสี่ยงภายในคริปโตฯ (เช่น เรื่อง SVB, Kucoin, Kraken, XRP, ETH as a security) ก็อาจจะทำให้ตลาดตกแรงๆอีกได้ ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองว่าอาจจะใช้กลยุทธ์ทยอยสะสมและเก็บ Cash ไว้ส่วนหนึ่งเพื่อช้อนซื้อกรณีที่มีการ Crash หนัก

สถานการณ์ภายใน Cryptocurrency & DeFi และกลยุทธ์ในช่วงตลาด Sideway

  • ปัจจัย Regulation ที่กดดันตลาดคริปโตฯที่น่าจับตามองในช่วงนี้หลักๆประกอบด้วย
    • ประเด็นของ Kucoin ที่โดนข้อหาว่าขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับทาง SEC 
    • การที่ ETH ถูกมองว่าเป็น Security คือ ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่า ETH จะมีการระดมทุนผ่าน ICO และมีผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างเช่น Vitalik หรือ Ethereum Foundation แต่คนพวกนี้ก็ไม่มีสิทธิหยุดเชน Ethereum ให้ทำงาน เพราะใครก็สามารถเข้าไปสร้าง DApps ได้ จึงไม่ได้เข้าข่ายการเป็น Security แบบ 100% นอกจากนี้ยังมีอีกหน่วยงานที่ชื่อว่า CFTC ที่ยังคงมุมมองว่า Ethereum เป็น Commodity ดังนั้นประเด็นนี้จึงยังมีความคลุมเครืออยู่มาก
    • ประเด็นเกี่ยวกับ FTX, XRP, Paxos ที่ยังไม่คลี่คลายและอาจทำให้ Regulator พยายามเข้ามาควบคุมคริปโตฯมากขึ้น โดยหนึ่งในเจ้าที่มีความเสี่ยงจะเป็นเป้าต่อไปอาจจะเป็น Coinbase ที่เพิ่งเปิดตัวเชน Base ไปในช่วงที่ผ่านมา

ขอบคุณภาพจาก Ultrasound.money
  • พื้นฐานยังแข็งแกร่ง: อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยลบต่างๆที่กระทบตลาดคริปโตฯ เหรียญ ETH ก็ยังคงมีพื้นฐานแข็งแกร่งและยังถูก Burn เรื่อยๆ จากข้อมูลของ Ultrasound.money จะเห็นว่าเหรียญ ETH ถูก Burn ไปแล้วประมาณ 52,000 ETH นับจาก The merge นักวิเคราะห์จึงมองว่าปัจจัยลบต่างๆน่าจะเป็นการกระทบระยะสั้นมากกว่า ระยะยาวนักวิเคราะห์ยังคงมุมมองบวก
  • BTC ในเชิง Technical มีแนวรับที่ $19,000, $18,000 และ $15,000 แต่นักวิเคราะห์มองว่าไม่น่าจะหลุดโซน $18,000-$19,000  
  • ETH ในเชิง Technical แนวรับแรกอยู่ที่ $1400 ซึ่งถ้าหลุดก็ไปรับที่ $880 โดยถ้าไม่หลุดที่โซนราคาประมาณ $1200 ก็จะยังไม่เสียทรงขาขึ้น
  • ส่วนเหรียญอื่นๆที่นักวิเคราะห์ยังคงมุมมองบวกก็คือกลุ่ม LSD อย่างเช่น LDO, RPL, FXS ที่กราฟของทั้งสองตัวมีลักษณะคล้ายกันคืออยู่ในโซนแนวรับทั้งคู่ และเป็นราคาที่ลงมาเยอะแล้ว โดยเฉพาะตัว RPL ที่อาจจะมีปัจจัยบวกระยะสั้นเพราะกำลังจะเปิดตัว Testnet สำหรับ Minipool ที่ใช้แค่ 8 ETH แนวรับของ RPL อยู่ในโซน $30-$35
  • แพลทฟอร์ม DeFi ที่นักวิเคราะห์แนะนำในช่วงนี้

1. Polymarket: Polymarket คือแพลทฟอร์มที่เปิดให้ผู้ใช้งานเข้าไปทายผลของเหตุการณ์ต่างๆเช่น ผลการเลือกตั้ง ผล Oscar หรือยังสามารถไปทายว่า Arbitrum จะปล่อย Airdrop ก่อนวันที่ 31 มีนาคมนี้หรือไม่ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าโอกาสที่ Arbitrum จะปล่อย Airdrop ภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้มีน้อยมาก จึงอาจเป็นโอกาสได้ ทั้งนี้อย่าลืมพิจารณาความเสี่ยงด้วย

ขอบคุณภาพจาก Polymarket

2. Rage trade: ช่วงตลาด Sideway นักวิเคราะห์มองว่าการฟาร์ม Stablecoin อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้าง Yield และถ้าไปฟาร์มบน Rage trade อาจจะได้ลุ้น Airdrop ไปในตัวด้วย โดย

โดยหนึ่งใน Product ของ Rage คือ Delta neutral vault บน GMX (คล้ายกับ Umami) ที่สามารถเลือกได้ว่าจะฝากใน Risk-on หรือ Risk-off vault ก็ได้ โดย Risk-on vault จะเป็น Delta-neutral GLP ที่จะได้ในส่วนของ Trader’s PNL ด้วย (มีความเสี่ยงจะขาดทุนถ้า Trader ได้กำไร) ส่วน Risk-off vault จะเป็นการฝาก USDC เพื่อนำส่วนหนึ่งไปฝากบน Aave และอีกส่วนนำไปฝาก GLP เพื่อรับ Delta fee (ไม่รวม Trader’s PNL)

ส่วนอีก Product คือ 80-20 Vault ที่ตอนนี้ได้ APY ถึง 10% ซึ่งจะนำ 80% ของ LP ไปฟาร์มที่แพลทฟอร์ม Curve และอีก 20% จะเป็น Concentrated liquidity ของ ETH Perp บน Rage Trade เอง ในส่วน 20% นี้จะคล้ายกับ GLP ของ GMX แต่ความพิเศษที่ต่างจาก GMX คือจะมีการ Rebalance asset ให้เป็นสัดส่วน 80:20 ตลาดด้วย

ขอบคุณภาพจาก Rage trade

.

คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

Author

Share :
Related
CoinTalk (10/5/2024):
CoinTalk (03/05/24):
CoinTalk (26/4/2024): ได้เวลากลับไปทำงานประจำ
เข้าสู่ยุคใหม่ของ Bitcoin ? พาส่อง Bitcoin Ecosystem ปี 2024