Macro
- สำหรับเศรษฐกิจจีน ที่ขณะนี้ยัง Lock down อยู่ แต่นักวิเคราะห์คาดว่า Q2 เศรษฐกิจอาจจะกลับมาดีขึ้นได้จาก Stimulus package เช่น การลดดอกเบี้ยและการทำ QE และการส่งออกที่อาจมากขึ้น ซึ่งถ้าเศรษฐกิจของจีนใน Q2 ออกมาดี จะเป็นปัจจัยส่งผลทำให้เงินเฟ้อดีขึ้นด้วย
- สถานการณ์น้ำมันยังน่าเป็นห่วง เพราะเหตุการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครนที่ยังมีต่อเนื่อง โดยคาดว่าใน Q2-Q3 ราคาน้ำมันอาจจะอยู่ในช่วงไม่เกิน $120 ต่อบาเรล
- ถ้าสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้ออาจจะมีผลให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นได้อีก เพราะ Supply ไม่ทัน Demand ซึ่งราคาน้ำมันจะกระทบกับยุโรปก่อนและส่งผลต่อไปเป็นลูกโซ่ไปที่ประเทศอื่นๆด้วย จากปัจจัยของราคาน้ำมันอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้
- ต้องจับตาสถานการณ์สงครามเพราะจะเป็นปัจจัยด้าน Supply chain ที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นโดยที่นโยบายของ Fed ก็อาจไม่สามารถควบคุมได้
- คาดว่านโยบายของ Fed น่าจะไม่ hawkish ไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเงินเฟ้อน่าจะลดลงได้และคลายความกังวลของตลาดทุน จากสองปัจจัย ปัจจัยแรกเพราะ Biden ออกนโยบายลด Tariff สำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน ปัจจัยที่สองคือมีการสรุปที่ชัดเชนว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 50 bps อีกสองครั้งในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม และ 25 bps ในเดือนกันยายน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
- ขณะนี้ DXY ปรับตัวลงมาพอสมควร น่าจะ sideway อยู่ในช่วง 100 ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่นักลงทุนคลายความกังวลแล้ว
- อีกเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงถึงการคาลกังวลของนักลงทุนคือ Bond yield 2 ปี ที่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาใน timeframe week
- จับตาดู Midterm election ของอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งผลของการแก้ปัญหาเงินเฟ้อจะเป็นหนึ่งในปัจจัยตัดสินว่า Biden จะอยู่หรือจะไป
- ตลาดคริปโทฯอาจจะยังไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามา คาดว่าอาจเป็นเพราะสถานการณ์ของ stablecoin ที่มีข่าวเกี่ยวกับการ regulate มากขึ้น ส่วนราคา Bitcoin ใน timeframe month ราคา bottom น่าจะอยู่ที่ $25000
กลยุทธ์การลงทุนและเหรียญอื่นๆ
- สำหรับตลาดช่วงนี้แนะนำตัวหลักๆเช่น BTC ETH BNB อย่าง BNB สามารถนำไปลง Launchpad ได้เรื่อยๆ
- ถ้า ETH ลงไปที่ $1200-$1300 เหรียญอย่าง SOL AVAX มีโอกาสลงได้อีก 50% แต่ว่าราคา SOL AVAX มีโอกาสกลับมาถ้าดูจาก Cycle ก่อนๆของ ETH ดังนั้นอาจใช้กลยุทธ์ DCA นอกจากนี้ SOL AVAX เป็นเชนที่การใช้งานจริง มีจุดเด่นชัดเจน และยังดูมีอนาคต
- อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือหาเหรียญโปรเจคใหม่ๆที่มี Backer เยอะ ยังไม่มี Cycle และมี Market cap ต่ำกว่า $500M
- เรื่องของ Microstratey ที่มีการนำ BTC ไปค้ำและกู้ BTC มาเพิ่ม มีราคาที่ทาง Microstrategy จะโดน Liquidate คือประมาณ $3000
DeFi
- Luna V.2 ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28/5/2022 ยังถือว่ามีความเสี่ยงสูง ระยะยาวมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะกลับมา ซึ่งอาจจะต้องหาจุดเด่นจึงจะตอบได้ว่ามีโอกาสกลับมาได้หรือไม่ แต่ระยะสั้นน่าจะมีแรงขายเยอะจากคนขายเหรียญ Airdrop ประกอบกับการเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
NFT
- เกมของ Marble X น่าสนใจเพราะเกมสนุก แต่ผู้ถือเหรียญอาจจะไม่ได้ประโยชน์
- ในตลาด Bear market ที่แรงเก็งกำไรหายไปในตลาด NFT จะเป็นตัวชี้ว่าราคาที่แท้จริงของแต่ละโปรเจคอยู่ที่เท่าไหร่ เช่น โปรเจคอย่าง Warden ที่มีแรงเก็งกำไรน้อยแต่แรกอยู่แล้ว ทำให้ตอนนี้ราคาก็ไม่ได้ตก
- ยังมีปัจจัยอื่นๆที่จะตัดสินว่าโปรเจค NFT จะไปรอดไหม เช่น Utility, Sense of community & Sense of belonging, Partnership, Backer ส่วนโปรเจคอื่นๆที่เป็น Cash grab น่าจะไปไม่รอด
- ถ้าจะเลือกโปรเจค NFT ในตอนนี้แนะนำพวก Clone X, RTFKT Ecosystem เพราะมี Back ที่แข็งแกร่งอย่าง NIKE
Author
-
Cryptomind Group is Thailand’s leading pioneer in digital asset financial services and investment product development
View all posts