สรุปเหตุการณ์ดราม่าบน Blast ที่เกือบจะต้อง Roll-back เป็น Blast Classic

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ช็อควงการบน Blast ที่เรียกว่าเป็นโปรเจกต์ Layer 2 ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์นั้นคือโปรเจกต์ Munchables ที่เป็น NFT-based “GameFi” โดน Exploited ไปเป็นจำนวน 17,400 ETH หรือมากกว่า $63m เลยทีเดียว

สุดท้ายแล้ว Hacker ก็ได้มีการคืนเงินทั้งหมดในเวลาต่อมา แต่อะไรทำให้ Hacker คืนเงินทั้งหมด ?? มาหาคำตอบกันที่นี้

ขอบคุณภาพจาก https://twitter.com/miszke_eth/status/1775196752993255613 

ซึ่งโดยปกติแล้ว Layer 2 หลายๆตัวทุกวันนี้ยังมีความ Centralized อยู่พอสมควร ถ้าเชนมีการทำงานแบบปกติ Sequencer นั้นจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการส่งธุรกรรมต่างๆลงไปที่ Mainnet แต่หากในกรณีที่ Sequencer มีการล่มเกิน 12 ชม. ผู้ใช้งานจะสามารถทั่วไปนั้นสามารถ Force Transaction เพื่อส่งธุรกรรมของตัวเองลงไปที่ Mainnet ได้

ขอบคุณภาพจาก https://l2beat.com/

แต่แน่นอนด้วยความที่ Sequencer ของ Blast เป็น Centralized และมีอำนาจเบ็ดเสร็จ หลังจากที่มีข่าว Hacker ขโมยเงินแล้วทางทีม จึงไม่รอช้า จึงได้ทำการ Blacklisted Address ของ Hacker

สุดท้าย Hacker โดน Freeze เงิน ไม่สามารถทำอะไรได้ หรือจะเรียกว่า รวยทิพย์ก็ได้ สุดท้าย Hacker ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องคืนเงินทั้งหมดที่แฮกมาคืนให้กับโปรเจกต์

ขอบคุณภาพจาก https://etherscan.io/ 

แต่กลับกัน ถ้า Sequencers ไม่ได้มีความ Centralized แบบในตอนนี้ ก็อาจเกิดเหตุการณ์เหมือนตอน The DAO ในปี 2016 ที่เกิดการ Roll-back Chain และสร้างเชนใหม่ออกมาเป็น Ethereum ในปัจจุบัน เรียกได้ว่ารอดเหตุการณ์ Blast Classic ไปแบบหวุดหวิดเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่นี้ https://cryptomind.group/research/