Blockchain กำลังนำเสนอเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับคนที่มีส่วนร่วมกับเกมนั้นๆ อย่างสร้างสรรค์ เป้าหมายสำคัญของ Blockchain ก็คือการสร้างสังคมและสภาพแวดล้อมของเกมที่น่าเชื่อถือและโปร่งใส นั่นทำให้ในระบบเกม Blockchain นั่นมีความซับซ้อนกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเกมแบบดั้งเดิม ทั้งในด้านการมีส่วนร่วมของผู้เล่น ระบบเศรษฐกิจภายในเกมและการดำเนินการต่างๆ
– ผลตอบแทน : เกม Blockchain นั่นมีการตอบแทนให้ผู้มีส่วนร่วมกับเกมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้พัฒนาเกม, Content Creators, หรือผู้เล่นก็ตาม ซึ่งในการมีผลตอบแทนที่เชื่อมโยงกับการมีส่วนร่วมกับเกมนั้น เกม Blockchain จึงสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างต่อเนื่อง
– การตัดสินใจ : ระบบการบริหารจัดการที่วางอยู่ในรูปแบบโทเคนสามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้เล่นนั้นมีส่วนร่วมกับการบริหารจัดการเกม การวางระบบแบบประชาธิปไตยนั้นจะทำให้มีความเห็นที่หลากหลายมากขึ้นทั้งจากฝั่งผู้พัฒนาเกม และฝั่งผู้เล่นเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานและพัฒนาเกม
เกม Blockchain นั้นสามารถจัดการ Supply และการแจกจ่ายไอเทมในเกมได้แบบอัตโนมัติผ่าน Smart Contract ที่จะถูกบันทึกอยู่บน Blockchain ซึ่งโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็สร้างความโปร่งใสให้กับการทำธุรกรรม การซื้อขายไอเทมในเกม ซึ่งทำให้การประเมินราคาของในเกมนั้นทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่ข้อมูลทุกอย่างนั้นโปร่งใสและตรวจสอบได้ยังช่วยลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือการโกงได้ ช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
ในขณะที่เกม Blockchain นั้นนำมาซึ่งนวัตกรรมต่างๆที่น่าสนใจ แต่ก็ยังนำมาซึ่งอุปสรรคในด้านเทคนิคเช่น เสถียรภาพของเครือข่าย ความล่าช้าของการทำธุรกรรม และความสามารถในการรองรับผู้ใช้ที่มากขึ้น ปัญหาอย่างธุรกรรมที่เกิดการล่าช้าขึ้นจากเครือข่ายที่หนาแน่นเกินไป (Network Overload) จะสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้แก่ผู้เล่นในการเชื่อมต่อหรือทำ Action ต่างๆ ภายในเกม นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงจากข้อจำกัดของการรองรับผู้เล่น (Scalability) หรือจากความซับซ้อนของการปรับใช้เทคโนโลยี Blockchain ให้เข้ากับเกมนั้นก็ยังคงเป็นอุปสรรคหลักๆ ของเกม Blockchain
นี่จึงเป็นที่มาของ Subnets จาก Avalanche ทีเรียกได้ว่าเป็นเครือข่าย Blockchain ที่มีความเป็นอิสระ (independent) และยังมีระบบการบริหารจัดการภายในตัวเอง (Self-Governing) ทำให้โปรเจคต่างๆ สามารถปรับแต่ง Blockchain นั้นๆ ได้ตามต้องการให้เข้ากับการใช้งาน ผู้พัฒนาเกม Blockchain นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะ Deploy Smart Contracts บนที่ Avalanche เชนหลัก (C-Chain) หรือ Subnets ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไป ที่จะเพิ่มตัวเลือกและความยืดหยุ่นให้กับผู้พัฒนาเกมได้เลือกสรร
หากผู้พัฒนาเกมต้องการสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งสิ่งต่างๆได้ ทั้งยังคงไว้ด้วยเสถียรภาพที่ดีและความปลอดภัยที่สูงแล้ว การใช้ Subnets นั้นคงจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
Subnets นั้นทำงานเป็น Blockchain แยกต่างหากทำให้ผู้พัฒนาเกมสามารถใส่ลูกเล่นหรือปรับแต่งระบบต่างๆ ให้เข้ากับเกม ทั้งยังสามารถระบบการทำงานอัตโนมัติบางอย่างเผื่อแบ่งเบาภาระได้อีกด้วย โดย Features อย่างการจ่ายค่า Gas หรือการปรับใช้ EVMs (Ethereum Virtual Machine) ก็สามารถนำมาใช้กับ Subnets ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้แล้ว Subnets ยังช่วยในการรองรับจำนวนผู้เล่นที่มากขึ้นรวมถึงการทำธุรกรรมต่างๆ ที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จากการที่ Subnets เป็น Blockchain แยกทำให้ธุรกรรมต่างๆสามารถบันทึกได้ทันที ช่วยสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่ติดขัด และสำหรับในส่วนของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวนั้นก็สามารถตั้งค่าได้เพื่อยืนยันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน
สำหรับในกรณีที่ผู้พัฒนานั้นลังเลกับการใช้งาน Subnets ในช่วงต้น ผู้พัฒนาก็สามารถเริ่มต้นโปรเจคบน Avalanche เชนหลักได้ก่อนที่จะสับเปลี่ยนมาใช้ Subnets ในภายหลังโดยการโอนข้อมูลต่างๆ แบบไม่มีข้อจำกัดใดๆ
นอกจากที่ Subnet นั้นจะช่วยให้การพัฒนาเกมง่ายและสะดวกขึ้นแล้ว ทาง Avalanche ยังมีเครื่องมือและโครงการต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมและช่วยเหลือให้การพัฒนานั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นเพื่อให้ผลลัพธ์เกมที่ออกมานั้นมีประสิทธิภาพสูง
จะเห็นได้ว่า Avalanche มีแผนที่จะสนับสนุนทั้งในด้านเครื่องมือ อย่าง AvaCloud หรือ Stardust ที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาที่ไม่คุ้นเคยสามารถเข้าถึงการพัฒนาเกมบน Blockchain ได้ดียิ่งขึ้น หรือจะเป็นโครงการสนับสนุนอย่าง Arcad3, Avalanche Multiverse หรือ Blizzard ที่ไม่เพียงเข้ามาช่วยมอบความรู้เกี่ยวกับ Concept ของเกม Blockchain แต่ยังมอบเงินทุนสนับสนุนเพื่อให้ผู้พัฒนาเกมนั้นสามารถมุ่งมั่นพัฒนาเกมที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ มากนัก โดยทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Avalanche Subnet เป็นเครื่องมือชั้นดีในการพัฒนาเกมบน Blockchain
จากการสนับสนุนการพัฒนาเกมที่ดีรวมถึงการใช้งาน Subnets ที่มากยิ่งขึ้นแล้ว ทำให้มี Studio Games ระดับ AAA หลายแห่งนั้นเข้ามาพัฒนาเกมโดยใช้ Subnets แล้ว ตัวอย่างเกมต่างๆ เช่น
ที่มา: Shrapnel
Shrapnel เป็นเกม First-Person Shooter (FPS) ระดับ AAA ที่พัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 5 จากทีมผู้พัฒนาเกมดังๆ อย่าง HALO, Call of Duty และ Westworld เกมนี้ได้รับการระดมทุนจากกลุ่มทุนอย่าง Polychain Capital และ Dragonfly Capital โดยตัวเกมนั้นเรื่องราวจะอยู่ในปี 2044 บนโลกและมี gameplay เป็นรูปแบบการต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรต่างๆ ซึ่งจะมีระบบ NFT ควบรวมอยู่ในเกมด้วย Shrapnel เลือกใช้งาน Subnet จากการที่ Subnet นั้นสามารถปรับแต่งได้หลากหลายรวมถึงยังมีความปลอดภัยที่สูง ซึ่งตัวเกมวางแผนที่จะเปิดตัวในปี 2024
ที่มา: Off The Grid
Off The Grid เป็นเกมธีม Cyberpunk ในรูปแบบ Battle Royale โดยทีมผู้พัฒนาเกม AAA อย่าง Gunzilla Games เกมนี้จะอยู่ใน GUNZ platform และพัฒนาบน Avalanche Subnet และจะใช้ระบบ NFT เพื่อให้ผู้เล่นนั้นมีความเป็นเจ้าของไอเทมต่างๆ ในเกมได้อย่างหมดจด โดยสาเหตุหลักๆที่ Gunzilla Games เลือก Subnets นั้นเพราะว่าอยากที่จะปรับใช้ความสามารถของ Subnet ในการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากและความปลอดภัยที่สูงในการพัฒนาประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ที่มา: MetaDOS, Avalanche
MetaDOS เป็นเกม Battle Royale พัฒนาโดย DOS Labs โดย Studio นี้เชื่อว่าเกมของพวกเขานั้นสามารถรองรับผู้เล่นได้กว่า 4 แสนคนต่อวัน โดยใน 1 Match นั้นจะรองรับผู้เล่นกว่า 200 คนที่จะต่อสู้กันและเอาชนะผู้เล่นอื่นในเวลาที่กำหนด ทาง DOS Labs นั้นตั้งใจที่จะทำให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหล ผ่านการทำธุรกรรมที่รวดเร็วแบบไม่เสียค่า Gas โดยใช้ Subnets เพื่อจะดึงดูดผู้เล่น Web2 ให้มาเล่นเกม Web3
Avalanche Subnet นั้นเริ่มมีบริษัทเกมต่างๆ ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากประสิทธิภาพที่สูงและความสามารถของ Blockchain ที่ให้อิสระในการปรับแต่งได้ตามที่ผู้พัฒนาต้องการ บริษัทใหญ่ๆในอุตสาหกรรมเกมเดิมอย่าง Crafton, Comptus (XPLA), และ WeMand (WEMIX) กำลังมุ่งหน้าพัฒนา Blockchain ของตัวเอง ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ Avalanche Subnet นั้นทำอยู่ แต่แตกต่างจาก Blockchain ทั่วไป ที่ Blockchain แยกแต่ละอันนั้นต้องใช้ทรัพยากรทั้งเงินและแรงงานในการพัฒนาที่หนักหนามาก Subnet ของ Avalanche นั้นมอบทางเลือกในการสร้าง Blockchain ประสิทธิภาพสูงโดยใช้ทรัพยากรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยข้อดีนี้จะเห็นได้ชัดจากการที่มีโปรเจคเกมใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง GREE และ Shrapnel เลือกใช้ Subnets เป็นตัวเลือกในการพัฒนาเกม Blockchain
Avalanche นั้นมีส่วนสำคัญในการปฏิวัติตลาดเกม Blockchain ผ่านเทคโนโลยี Subnet ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากบริษัทเกมชั้นนำที่เลือกใช้เทคโนโลยีนี้เป็นทางเลือกในการพัฒนาเกมระดับแนวหน้าต่างๆ ซึ่งในท้ายที่สุด Subnet นั้นจะไม่เป็นแค่เทคโนโลยีในการพัฒนาเกม แต่จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมเกม Blockchain ไปอย่างสิ้นเชิง
