Search
Close this search box.

เจาะลึกเกณฑ์การลิสต์เหรียญของ Binance

Reading time 10 Mins
Share :
Artboard-1

Table of Contents

ทุกโปรเจกต์ในโลกคริปโตล้วนอยากให้เหรียญของตนได้ลิสต์บน Binance Exchange เพราะมีข้อดีมากมายไม่ว่าจะเป็น ซื้อขายได้ง่าย มีสภาพคล่องที่เยอะ คนให้ความคนใจเยอะ และมีความน่าเชื่อถือสูง ส่วนนักลงทุนก็อยากให้เหรียญที่ตนเองถืออยู่ได้ลิสต์บน Exchange เพราะตอนที่เหรียญถูกลิสต์ ราคาจะมีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้นักลงทุนที่ถือเหรียญอยู่ได้กำไร

3 วิธีในการนำเหรียญเข้า Binance

1.Binance Launchpad แพลตฟอร์มเปิดตัวเหรียญของ Exchange ซึ่งจะเปิดระดมทุนรูปแบบ IEO (Initial Exchange Offering) บน Exchange โดยใช้เหรียญ $BNB ในการซื้อ และจะมีการแจกเหรียญตามสัดส่วนเหรียญ $BNB ที่นักลงทุนลง

2.Binance Launchpool จะเป็นการเปิด Pool ของเหรียญใหม่ที่จะเปิดขาย ให้นักลงทุนนำเหรียญ $BNB ไป Stake เพื่อรับ Reward เป็นเหรียญนั้น ซึ่งเหรียญที่นำมาลง Launchpool จะเป็นเหรียญที่เคยเปิด ICO/IEO ไปแล้ว

3.Direct Listing เป็นการนำเหรียญเปิดขายอยู่นอกตลาดเข้ามาลิสต์บน Exchange 

โปรเจกต์แบบไหนที่มีโอกาสถูกลิสต์ Binance

จากที่สำรวจมาโปรเจกต์ที่ถูกลิสต์ มักจะเป็นโปรเจกต์ที่อยู่ในกระแสหลักที่ตลาดกำลังให้ความสนใจ โดยจะเป็นตัวที่มีโปรดักต์ที่ดี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บวกกับมี ยอดผู้ใช้งาน และคนสนใจเยอะ และถ้าหากได้รับการลงทุนจาก Binance Labs หรือชนะการแข่งขัน MVB ก็จะมีโอกาสถูกลิสต์สูงขึ้นอีก

“CZ” Ceo ของ Binance ได้กล่าวว่าตัวเขาต้องการให้มีแต่เหรียญดีๆ ที่ถูกลิสต์บน Exchange และชอบโปรเจกต์ที่มี โปรดักต์ที่ดี ทีมที่มีความสามารถ และยอดผู้ใช้งานที่เยอะ, โดยพื้นฐานแล้วหากมีผู้ใช้งานใช้โปรดักต์นั้นเยอะก็แปลว่าโปรดักต์นั้นมีมูลค่า และถ้าหากมีผู้ใช้งานเยอะ เหรียญนั้นก็มักจะมีสภาพคล่องที่ดี

เวลา Exchange จะ List เหรียญใดเหรียญหนึ่ง นอกจากจะต้องดูเรื่องปัจจัยพื้นฐานของโปรเจกต์นั้นยังจะต้องดูเรื่องสภาพคล่องของเหรียญนั้นด้วย เพราะ Exchange จะต้องมีเหรียญมากพอที่จะให้ผู้ใช้งานซื้อขาย จึงทำให้เหรียญที่เล็กหรือสภาพคล่องน้อยจะถูก List บน Exchange ยาก และ Binance ไม่เคย List เหรียญประเภท Tax token ที่จำนวนเหรียญจะลดลงทุกครั้งที่ทำธุรกรรม

เหรียญที่มีโอกาส Direct Listing สูง

LayerZero

LayerZero เป็นโปรโตคอลที่เข้ามาแก้ปัญหาและช่วยยกระดับการโอนเหรียญและข้อมูลข้ามเชน และทำให้หลายๆ Blockchain สามารถทำงานร่วมกันได้ สามารถอ่านข้อมูลเต็มได้ที่ LayerZero คงไม่ต้องพูดถึงโปรเจกต์นี้มาก เพราะเป็นโปรเจกต์ที่มาแรง และเป็นที่พูดถึงที่สุดในช่วงนี้ ณ ตอนนี้ LayerZero มีผู้ใช่งานกว่า 3ล้านคน และจำนวนการทำธุรกรรมทะลุ 50ล้านครั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ด้วยจำนวนเงินลงทุนที่สูงถึง $300m อีกทั้งมีนักลงทุนชื่อดังมากมาย แถม Binance Labs ยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนหลักของโปรเจกต์ บวกกับความสนใจของตลาดเกี่ยวกับเหรียญนี้ ทำให้มีโอกาสเกือบ 100% ที่ LayerZero จะได้เปิดตัวบน Binance, เหรียญ $ZRO จะเปิดตัวพร้อมกับการอัพเกรดครั้งใหญ่ของโปรเจกต์ Stargate ที่เป็น Bridge หลักของ LayerZero ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วง Q4 ของปีนี้

IslamicCoin

IslamicCoin เป็นโปรเจกต์ที่มาเพื่อสร้างคุณค่าให้กับชุมชนอิสลามของโลก และเป็นโปรเจกต์แรกบนโลกคริปโตที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ กฏการเงินของศาสนาอิสลาม IslamicCoin จะมีโปรดักต์หลักเป็น “HAQQ Blockchain” บล็อกเชน Layer1 ที่สร้างมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ให้บริการชุมชนอิสลามโดยเฉพาะ โดยจะใช้เทคโนโลยี Tendermint ของ Cosmos

ถึงจะเป็นโปรเจกต์ที่คนไทยไม่รู้จักมากนัก แต่ IslamicCoin ก็เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่มี Blockchain Layer1 เป็นของตนเองและได้รับเงินระดมได้สูงถึง $400m อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากชุมชนอิสลามเป็นจำนวนมาก

เหรียญ IslamicCoin จะเปิดตัวในวันที่ 1 กันยายน 2023 ที่จะถึงนี้ ด้วยความที่เป็นเหรียญเกี่ยวกับศาสนาเหรียญแรกๆ ในโลกคริปโต แถมเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่ และคนให้ความสนใจพอสมควร ทำให้มีสิทธ์ลุ้นว่าเหรียญนี้อาจจะได้เปิดตัวบน Exchange

Lybra Finance ($LBR)

Lybra Finance เป็น Protocol ในการออกเหรียญ Stablecoin โดยนำ ETH และเหรียญ LSD เช่น stETH(Lido Staked ETH) มาค้ำแล้ว Mint ออกมาเป็น eUSD (stablecoin) โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยในการ Mint ซึ่งจะคิด Collateral Ratio อยู่ที่ 170% 

โดย Users จะได้รับดอกเบี้ยผ่านการถือ eUSD เฉยๆจากดอกเบี้ยอ้างอิงของ LSD ซึ่งจะได้มาในรูปแบบของ eUSD หรือถ้าเสี่ยงหน่อยสามารถนำ eUSD ไปซื้อ ETH แล้ว Mint วน Loop ไปเป็นการ Leverage Long และยังสามารถได้เหรียญ LBR จากการนำ LBR ไป Stake และสามารถนำไปโหวตเพื่อรับส่วนแบ่งรายได้จาก Protocol

โดย Lybra Finance นั้นถือว่าเป็นตัวที่มี Performance ดีที่สุดในหมวดของ LSDFi มี TVL ที่โตระเบิดกว่า 10x ภายในสองอาทิตย์ ซึ่ง LBR ก็เป็นตัวที่มีพัฒนาการตลอดทั้งการอัพเกรด V.2 มี TVL ที่ทรงตัวสม่ำเสมออยู่ที่ $372M และยังได้รับการพูดถึงบ่อยใน Binance Research ของเดือน June และ July สองเดือนติดในหมวดของ LSDFi Sector

Velodrome Finance ($VELO)

ต่อมาเป็นโปรเจกต์ Velodrome Finance เป็น DEX AMM แบบ ve3,3 ที่ Forked มาจาก Solidly และพัฒนาต่อจนมี TVL สูงสุดบนเชน Optimism นั่นเอง โดย Velodrome นั้นวางตัวเองเป็น Optimism’s Central Liquidity Hub โดยมีระบบที่เรียกว่า Fly-Wheel Effect ที่จะทำให้เงินนั้นหมุนเวียนบน Ecosystem ไม่ไปไหน 

โดย Users สามารถมาใช้งาน Swap เหรียญ วาง LP หรือซื้อเหรียญ $VELO มาโหวต Pool ที่เลือกเพื่อเพิ่ม APR ให้กับ Pool นั้นๆ และยังมีระบบ Bribe เพื่อเป็น Incentives ใน Pool ต่างๆเพื่อจูงใจให้ Voters มาโหวต Pool ที่ตนเอง Bribe ไว้นั่นเอง

โดย Velodrome นั้นมีความน่าสนใจเพราะเป็น Dapp อันดับ 1 บนเชน Optimism อิงจาก TVL มีพัฒนาการอยู่เสมอและพึ่งปล่อย Upgrade V.2 ไปทำให้สามารถ Generate Fees ได้สูงขึ้น มีการ Active บน Twitter อยู่ตลอดและที่สำคัญคือเป็นเหรียญที่มี Liquidity บน DEX กว่า ~$10M เยอะที่สุดบน Optimism รองจากเหรียญ $OP นั่นเอง ด้วยความโดดเด่นนี้เองคงไม่อาจพ้นสายตาของ Binance ได้ ใครที่สนใจสามารถตามไปดู Cryptomind Research Talk ได้ใน EP ที่พูดถึง Velodrome Finance

Rollbit Coin ($RLB)

Rollbit เป็นแพลตฟอร์มคาสิโนบนโลกคริปโตที่มียอดผู้ใช้งานเยอะที่สุด ณ ตอนนี้ อีกทั้งบน Rollbit ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ นอกจากคาสิโนเพิ่มเติมอย่าง NFT marketplace และ Leveraged Crypto Trading ให้ผู้ใช้งานอีกด้วย

ซึ่ง Rollbit เป็นแพลตฟอร์มที่มีรายได้สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถมีรายได้ต่อวันสูงกว่า $1m แถมยังมีการนำรายได้มา buy back เหรียญตัวเอง ทำให้เหรียญนั้นพอมี Demand เรื่อยๆมาคอยซับ Sell Pressure ต่างๆในระยะยาว

อีกทั้งราคาของเหรียญ $RLB พุ่งขึ้นมากว่า 10เท่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้ได้รับความสนใจจากตลาดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเหรียญยังมีสภาพคล่องที่สูงถึง $6.3m และ marketcap ตอนนี้อยู่ที่ $500m นับเป็นเหรียญที่ใหญ่และคนสนใจเยอะพอสมควร ทำให้เหรียญ $RLB มีสิทธิ์ได้ลิสต์บน

Unibot ($UNIBOT)

และอีกโปรเจคที่เป็นกระแสพอสมควรนั่นก็คือ Unibot ซึ่งเป็น Telegram Bot ที่ให้บริการหลักๆคือ สามารถให้ Users นั้นส่งคำสั่งซื้อขายบน DEX ผ่าน Telegram Chat ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสะบายเป็นอย่างมากให้กับเหล่า Traders ที่ชอบเทรดเหรียญ DeFi และเหรียญเล็กต่างๆ

โดยข้อดีหลักๆคือ สะดวกจากการใช้แค่ Telegram ส่งคำสั่ง การสามารถตั้ง Buy/Sell Limit สามารถ Mirror Sniper หรือการ Copy Trade ตาม Address ที่มี Winrate สูงๆ และสุดท้ายคือ Private txn โดยใครที่เทรดผ่าน Unibot จะเป็นการส่งคำสั่งแบบ Private เข้าสู่ Validator Node โดยไม่ผ่าน Mempool ซึ่งช่วยป้องกัน MEV Bot ในการทำ Sandwich ได้

และทำไม Unibot ถึงน่าสนใจเพราะ มีพัฒนาการอยู่ตลอด มี Users และ Fees ที่สูงและสม่ำเสมอ มีการแชร์รายได้ให้กับ Holders อย่าง Protocol Revenue และ Transaction Tax ในการซื้อขายเหรียญ ซึ่งดูเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถดึง Users มาใช้งานได้อย่าง Sustain และ Binance Research ก็ได้ออก Report เกี่ยวกับ Telegram Bot มีกล่าวถึงเหรียญ $UNIBOT พอสมควร และปัจจุบัน Unibot ก็ถือว่าเป็นผู้นำอันดับ 1 ใน Sector นี้ที่มีเหรียญแล้ว แต่ก็ยังมีข้อกังขาคือปกติแล้ว Binance นั้นมักจะไม่ค่อยลิสต์เหรียญที่มี Tax สักเท่าไหร่ ใครที่สนใจสามารถตามไปดู Cryptomind Research Talk ได้ใน EP ที่พูดถึง Unibot 

เหรียญที่มีโอกาสเปิดตัวบน Binance Launchpad

Polyhedra

Polyhedra Network เป็นโปรเจกต์ที่สามารถส่งสินทรัพย์ และข้อมูลไปมาระหว่างเชนต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี Zero-knowledge proof (ZKP) และ LayerZero โดยจะมุ่งเน้นไปที่ การทำงานร่วมกันระหว่างเชน ความสามารถในการขยายระบบ และความเป็นส่วนตัว

Polyhedra ได้รับการระดมทุนสูงถึง $25m โดยมี Binance Labs และ Polychain Capital เป็น Lead Investor และตอนนี้ Polyhedra มีกิจกรรมมากมาย อีกทั้งการใช้งาน zkBridge นั้นได้ transaction ของ LayerZero ด้วย ทำให้ได้รับความสนใจผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก

ทำให้เหรียญของโปรเจกต์ Polyhedra มีโอกาสเปิดตัวบน Launchpad สูง ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญของโปรเจกต์ออกมา แต่มีการคาดการว่าโปรเจกต์ Polyhedra จะมีเหรียญของตัวเอง และจะเปิดตัวในช่วง Q4 2023

AltLayer

AltLayer เป็นโปรเจกต์ที่ทำเกี่ยวกับ Scaling solution ที่กำลังเป็นที่สนใจของตลาดตอนนี้สามารถอ่านบทความเต็มได้ที่ AltLayer แถมยังมีนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมากมายไม่ว่าจะเป็น Jump, Polychain Capital, Gavin Wood มาลงทุน 

โปรเจกต์ AltLayer ชนะ MVB VI (Most Valuable Builder program) ทำให้ได้รับการลงทุน และการสนับสนุนเพิ่มจาก Binance Labs หลายโปรเจกต์ที่ชนะการแข่งขัน MVB รอบก่อน และโปรดักต์ได้รับการสนใจจากผู้ใช้งานสูงก็ได้ลิสต์หรือเปิดตัวบน Exchange

ทางผู้เขียนคาดการณ์ว่าโปรเจกต์ AltLayer มีสิทธิ์สูงที่จะได้เปิดตัวบน Launchpad เหมือนกับโปรเจกต์ Space ID ที่ชนะ MVB V และจากที่ได้สอบถามมาตัวเหรียญของโปรเจกต์ Altlayer จะมาช่วง ปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า

เปรียบเทียบราคาเหรียญก่อนและหลังลิสต์ Binance

ในส่วนนี้เราจะพาไปดูกันว่าแล้วปกติเหรียญที่ลิสต์ แต่ละตัวนี้มีการตอบสนองต่อข่าวยังไงบ้างระหว่างก่อนลิสต์และหลังลิสต์ โดยเราจะเลือกเฉพาะเหรียญที่พึ่งลิสต์ในปีนี้เท่านั้นเพื่อดูว่าเหรียญที่ลิสต์นั้นถือว่าเป็นสัญญาน Laggard ไหม

Pendle Finance

$Pendle ประกาศลิสต์ Binance เมื่อวันที่ 2 July 2023 เราจะเห็นว่าก่อนวันประกาศนั้นกราฟมี Sentiment เป็นขาขึ้นเรื่อยๆจาก $0.4 ไปถึงราวๆ $1 แล้วจึงประกาศจากนั้นดีดทันที 37.8% แล้ว Sentiment ก็เปลี่ยนเป็นขาลง หากดูราคาจากยอดจนถึงปัจจุบัน 18 Aug 2023 นั้น ตอนนี้ติดลบอยู่ที่ -57.49%

PEPE

จากภาพจะเห็นว่า Binance มีการประกาศลิสต์ $PEPE เมื่อวันที่ 5 May 2023 ตลาดมีการตอบรับโดยการดีดขึ้นทันที 57.85% จากนั้นกราฟก็มี Sentiment เปลี่ยนเป็นขาลงโดยถ้าวัดจากราคายอดจนถึงปัจจุบันวันที่ 18 Aug 2023 นั้นติดลบอยู่ที่ -72.42%

Radiant Finance

ต่อมาเป็นเหรียญ $RDNT ของ Radiant Finance ที่ Binance ประกาศลิสต์เมื่อวันที่ 30 March 2023 โดย ณ วันที่ประกาศนั้น ตลาดตอบรับโดยการดีดขึ้นทันที 34.88% และจากนั้นก็ไหลลงและดีดขึ้นไปใหม่เป็น Swing ออกข้างแบบวงกว้าง และถ้าดูจากยอด Local Top ณ ช่วงประกาศจนปัจจุบันวันที่ 18 Aug 2023 ราคานั้นติดลบอยู่ที่ -43%

Rocket Pool 

และสุดท้ายเมื่อเรามาดูอีกตัวคือ $RPL ของ Rocket Pool ที่ Binance ได้ประกาศลิสต์เมื่อวันที่ 18 January 2023 ทำให้ราคานั้นดีดทันที 22.59% แล้วกลับมาที่เดิมจากนั้นราคาก็ขึ้นไปต่อตาม Sentiment ตลาด ซึ่งทุกคนพอจะรู้ว่าเมื่อต้นปี 2023 นั้น Sentiment ตลาดคริปโตโดยรวมนั้นค่อนข้าง Bullish ตามราคาของ $BTC นั่นเอง เมื่อเรามาดูจากยอดราคาวันที่ประกาศจนปัจจุบันจะเห็นว่า ราคานั้นติดลบอยู่ที่ราว -35.93% นั่นเอง

สรุป

จากการดูเกณฑ์ที่ Binance ใช้คัดเหรียญไป ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องเป็นเหรียญที่มี Product ที่ดีเช่นเป็นผู้นำใน Sector นั้นๆ มี Model ที่สมเหตุสมผล มีพัฒนาการ มี Innovation มีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ

แต่ทุกการลิสต์ก็ไม่ได้รับประกันว่าราคาจะขึ้นไปต่อ เพราะถ้าดูจากสถิติคร่าวๆที่เราทำไปนั้นจะเห็นว่าทุกครั้งที่ประกาศเท่ากับราคาเข้าใกล้ Top แล้วโดยคิดเป็นอัตรา 3:1 มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่ประกาศแล้วราคาขึ้นไปต่อ

ซึ่งจริงๆแล้วการดูว่าราคาจะขึ้นไปต่อไหมนั้นหลักๆก็ไม่พ้นการดู Sentiment ตลาดว่าตอนนั้น Bullish แค่นั้นเพราะอย่าง $Pendle, $PEPE และ $RDNT นั้นก็อยู่ในช่วงที่ตลาดไม่ค่อย Bullish มากซึ่งต่างจาก $RPL ที่ Sentiment ตลาดนั้น Bullish พอดีตอนช่วงต้นปี

บทความนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เหรียญที่มีศักยภาพเพียงพอในการลิสต์ ไม่ได้เป็นการซื้อชักชวนให้ซื้อขายตาม และเหรียญเหล่านี้อาจจะไม่ได้ถูกลิสต์เร็วๆ นี้

Authors

Share :
Related
DeSci: เมื่อ Web3 ปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์และการวิจัย
Cryptomind Monthly Outlook (November 2024)
Cryptomind Monthly Outlook (October 2024)
Thailand Blockchain Landscape 2024