Search
Close this search box.

Cryptomind Monthly Outlook (July 2024)

Share :
monthly

Table of Contents

*ข้อมูลระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน 2024 – 10 กรกฎาคม 2024

สรุปข่าวเด่น

Bitcoin ETF Flow

Bitcoin ETF ในเดือน กรกฎาคม ปี 2024

ในเดือนกรกฎาคม ปี 2024 หลังจากที่มีการปรับตัวลงของราคา Bitcoin และแรงซื้อของ ETFs นั้นค่อนข้างที่จะน้อยและในบางวันติดลบ และในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนั้นแรงซื้อ ETFs นั้นค่อนข้างที่จะคงที่ และจะเห็นได้ว่ามีแรงซื้อล่าสุดที่นำโดยกอง IBIT หรือ Blackrock เข้ามามากกว่ากองอื่นๆถึงหลายเท่า แสดงให้เห็นถึงการคาดการณ์ของ Blackrock ที่มอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่น่าซื้อหลังจากที่มีการปรับตัวลงมาในระดับหนึ่ง

จากกราฟ Bitcoin Spot ETF Total Cumulative Flow นั้นแสดงถึงการที่ยอดการไหลของเงินเข้าสู่ Bitcoin ETF นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้วเล็กน้อย โดยที่ในเดือนนี้ จำนวนการไหลของเม็ดเงินในกอง Bitcoin ETF นั้นมีมากกว่าเดิม โดยถ้าสังเกตุจากยอด Bitcoin ETFs ในเดือน กรกฎาคมนั้น จะแสดงให้เงินถึงแรงซื้อที่มีมากกว่าแรงขาย

ค่าเงินบาท: DXY SIDEWAY

ค่าเงินบาทมีแนวโน้มวิ่งในกรอบ: ค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะเคลื่อนที่ในกรอบ 36 – 36.5  บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แต่คาดการณ์ว่าในอนาคตไทยบาทมีโอกาสที่แข็งค่ามากขึ้น และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างของสหรัฐฯ นั้นได้ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ เงินบาทจึงได้รับแรงกดดันที่ทำให้ค่าเงินนั้นแข็งค่าขึ้นกว่าเดิม

มี 2 ปัจจัยคอยจับตามองดังนี้ 

1.ดอลล่าร์อ่อนค่าลง: ดอลล่าร์นั้นอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเป็นผลที่สอดคล้องกับการปรับตัวลงของ Bond Yield และด้วย CPI ที่มีตัวเลขออกมาที่ชะลอมากกว่าคาด ทำให้ตลาดนั้นได้คาดการณ์นั้นว่า FED จะลดดอกเบี้ยในเดือน กันยายน ที่จะถึงนี้

2.ปัจจัยอื่นๆ: ค่าเงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มจากราคาของทองคำที่ปรับตัวขึ้นในตลาดโลก และนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาซื้อพันธบัตรของไทย

Macroeconomics: FED Meeting Minute Summary

รายงานการประชุมของ FED ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราที่มั่นคงและตลาดแรงงานแข็งแกร่ง แม้จะมีการชะลอตัวเล็กน้อย การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% ในเดือนมิถุนายน และจำนวนของผู้ว่างงานระยะยาว (27 สัปดาห์ขึ้นไป) เพิ่มขึ้น 166,000 คนเป็น 1.5 ล้านคน

ในด้านของอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคมีความก้าวหน้าเล็กน้อยต่อเป้าหมาย 2% ของ FOMC โดยอัตราเงินเฟ้อ PCE ทั้งหมดอยู่ที่ 2.7% และ Core PCE อยู่ที่ 2.8% ณ เดือนเมษายน 2024 นอกจากนี้ ตัวเลข CPI ปีต่อปี ของเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 3.0% ซึ่งตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1%

FOMC ยังคงรักษาช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของกองทุนกลางที่ 5¼ ถึง 5½ เปอร์เซ็นต์ โดยเน้นความจำเป็นที่จะต้องมีความมั่นใจมากขึ้นในแนวโน้มเงินเฟ้อก่อนที่จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย แต่เนื่องจากตัวเลขทั้ง Core CPI และ CPI ตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อดูจากตารางความน่าจะเป็นนั้นแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 83% และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

ในการให้การเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2024 ประธานพาวเวลล์กล่าวว่า ข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจในแนวโน้มเงินเฟ้อหรือความจำเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ยได้ เขาเน้นย้ำว่าการลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงอย่างมากและเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ นอกเหนือจากเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปัจจุบันซับซ้อนมากขึ้น

สภาวะตลาด DeFi โดยรวม

ภาพรวมตลาดคริปโตฯในเดือนกรกฎาคม ตลาดยังคงมีความผันผวนสูงจากสาเหตุหลักที่มาจากข่าวการขายของ Mt.Gox และรัฐบาลเยอรมัน ถึงแม้ CPI ล่าสุดจะออกมาดี แต่นักวิเคราะห์มองว่าตลาดคริปโตฯ น่าจะยังผันผวนและ Sideway ไปอีกสักระยะจนกว่าข่าวการขายต่างๆจะเคลียร์และเริ่มมีการลดดอกเบี้ยจริงในเดือนกันยายน ซึ่งการลดดอกเบี้ยก็ยังไม่แน่นอนจากภาพเศรษฐกิจที่ยังคลุมเครือ

ตลาด DeFi ภาพรวม TVL ในเดือนกรกฎาคมมี TVL ลดลงราว 14% ที่คาดว่ามาจากสภาพตลาดคริปโตฯโดยรวมที่ยังไม่สู้ดีนัก ทุกเชนใน Top 5 มี TVL ลดลงราว 10-15% ยกเว้น Solana ที่แข็งแกร่งนำตลาดโดย TVL แทบไม่ลดลงเลย สาเหตุหลักมาจากความนิยมจากการเทรด Memecoin ทำให้กิจกรรมการใช้งาน DeFi บน Solana เพิ่มขึ้นตามมา 

โดยแพลตฟอร์มที่มี TVL เพิ่มขึ้นต่อเนื่องยังคงเป็นกลุ่ม Liquid Restaking ที่ยังร้อนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เพิ่งเปิดใหม่อย่าง Symbiotic, Mellow Protocol, Solayer ที่มี TVL เพิ่มมากถึง 2,200%, 980% และ 96% ตามลำดับในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน

เชนนอก Top 5 ที่มีการเติบโตอย่างน่าจับตามองคือ Ton Chain ที่ได้ไต่ขึ้นมาอยู่ Top 10 โดยเติบโตมากกว่า 57% โดยถ้าเทียบจากต้นปีมี TVL ต่ำกว่า $20 ล้าน ในปัจจุบันมาอยู่ที่ $700 ล้าน 

สำหรับเชน Ethereum Layer 2 ที่เติบโตสูงในเดือนที่ผ่านมาคือ Scroll ที่เติบโตมากกว่า 260% โดยคาดว่าเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงสะสมแต้มเพื่อลุ้น Airdrop ส่วน Layer 2 ที่ TVL ปรับลดลงสูงสุดคือ Blast ที่เพิ่งแจก Airdrop ไป

ในช่วงเดือนสิงหาคมนักวิเคราะห์คาดว่าเชน Solana และ Restaking เปิดใหม่ที่ยังไม่ออกเหรียญจะได้รับความนิยมต่อเนื่อง ส่วนระยะยาว Tokenization ยังน่าจับตามองจากข่าวที่ Goldman Sach จะเปิดตัวโปรเจกต์ Tokenization

แรงกดดันตลาดจากรัฐบาลเยอรมัน, Mt.Gox และ Genesis

ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตลาดคริปโตโดยเฉพาะ Bitcoin ได้เจอแรงกดดันจากแรงขายจากทางฝั่งของรัฐบาลเยอรมันที่เทขาย Bitcoin จำนวน 50,000 BTC อย่างต่อเนื่องมูลค่ารวมประมาณ 3,250 ล้านดอลลาร์

ช่วงเวลาเดียวกัน Genesis Trading ที่กำลังเข้าสู่กระบวณการล้มละลายก็มีการค่อยๆทยอยขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ เช่นเดียวกันซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี Bitcoin จำนวนกว่า 45,000 BTC แต่ในขณะนี้ทาง Genesis พึ่งขายไปได้เพียง 12,000 BTC เท่านั้น และยังเหลืออีก 33,000 BTC มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์

และ Mt.Gox ที่เป็น Exchange เก่าแก่ตั้งแต่ปี 2010 ที่มีการถูก Hack และปิดตัวลงในปี 2014 ก็กำลังจะเริ่มมีการคืน Bitcoin ที่กู้คืนมาได้จำนวนประมาณ 138,000 BTC มูลค่าเกือบ 9,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ระยะเวลาจะแตกต่างออกไปในแต่ละ Exchange โดยมีรายละเอียดดังนี้

> Kraken – ภายใน 90 วัน

> Bitstamp – ภายใน 60 วัน

> BitGo – ภายใน 20 วัน

> SBI VC Trade และ Bitbank – ภายใน 14 วัน

ทำให้ทางเรามองว่าแรงเทขายอาจไม่ได้มีผลต่อตลาดในทางลบมากนักเพราะเป็นการทยอยคืนและทางเจ้าหนี้ก็คงทยอยขายเหมือนกันเพราะถ้าขายทีเดียวจะทำให้ Sentiment ของตลาดแย่ลง ไม่งั้นจะทำให้ Bitcoin ที่ขายได้มูลค่าน้อยลงเพราะต้องไล่ราคาขายลงมา แต่ก็แน่นอนว่าแรงขายทั้งหมดก็เป็นแรงกดดันที่อาจไม่ได้ทำให้ตลาดขึ้นได้มาก

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากรัฐบาลเยอรมันเทขายหมดอย่างรวดเร็วและราคา Bitcoin ไม่ได้กระทบมาก ราคาก็ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ $62,000 ได้อีกครั้งเนื่องตลาดเริ่มคลายกังวล

Token Unlock ในเดือนกรกฏาคม

ยอดปลดเหรียญของเดือนกรกฎามีหลายเหรียญที่มีการปลดรอบใหญ่

  • WLD ปลดวันที่ 4 กรกฎาคม 8.2% ของ Supply
  • XAI ปลดวันที่ 9 กรกฏาคม 71.59% ของ Supply
  • APT ปลดวันที่ 12 กรกฏาคม 2.48% ของ Supply
  • STRK ปลดวันที่ 15 กรกฏาคม 4.92 % ของ Supply
  • ARB ปลดวันที่ 16 กรกฏาคม 2.87% ของ Supply
  • ALT ปลดวันที่ 25 กรกฏาคม 42.08% ของ Supply

ตัวใหญ่ๆ อย่าง World Coin, Startnet โดยเฉพาะ XAI และ Altlayer จะโดนปลดเหรียญปริมาณมหาศาล อาจส่งผลกับราคาในระยะสั้นได้

Token Unlock ปัจจัยที่ต้องระวังในโลกคริปโต

Token Unlock ส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญคริปโตฯนั้นๆ เพราะนักลงทุนจะหวาดกลัวแรงเทขายที่มาจากการปลดเหรียญทำให้ราคามีการปรับตัวลงในระยะสั้นๆ อาจยาวนานถึงหลายเดือนได้ ซึ่งในโลกคริปโตฯจะมีการปลดเหรียญอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับการกำหนด แต่มักจะเป็นทุกๆ วันและทุกๆ เดือน แต่จะมีรอบที่ปลดเหรียญรอบใหญ่ๆ ในปริมาณที่มากๆ ซึ่งการปลดเหรียญอาจเพิ่ม Token Supply เกือบ 2 เท่า ตัวอย่างตามรูปด้านบน ตลาด Price In ไปก่อนถึงเวลาปลดเหรียญราว 3 เดือน

ดังนั้นการเลือกลงทุนในเหรียญในช่วงที่ตลาดคริปโตฯยังไม่เข้าสู่ Bull Market อย่างเต็มตัว จะต้องพิจารณาการปลดเหรียญเป็นหนึ่งใน Criteria สำคัญ เพราะเป็นช่วงที่ยังมี Demand น้อยกว่า Supply ที่ถูกปลดออกมา ซึ่งนอกจากการปลดเหรียญแล้ว นักลงทุนอาจต้องคอยติดตามการเพิ่ม Supply อื่นๆที่นอกเหนืออย่างเช่น การแจก Airdrop เป็นต้น

เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรระยะสั้นและการฟาร์ม Stablecoin

ผลตอบแทนที่ได้จากพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นสหรัฐ (Treasury Bills) แบบระยะสั้น 3 เดือน ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีสภาพคล่องและผลตอบแทนสูง ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนสูงขึ้นต่อเนื่องจากความกังวล Recession โดยปัจจุบันผลตอบแทนทรงๆตัว ตอนนี้อยู่เฉลี่ยปีละ 5.23% ส่วนผลตอบแทนจากการฟาร์มหรือปล่อยกู้ Stablecoin บนแพลตฟอร์มต่างๆให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะจากช่วงต้นปี 2024 ถึงแม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจากเดือนมิถุนายนที่ 15% มาอยู่ที่ระดับ 11% ในเดือนกรกฎาคม

โดยผลตอบแทนฟาร์มและปล่อยกู้ Stablecoin ในเดือนกรกฎาคมลดลงเล็กน้อยจากสภาพตลาดคริปโตฯที่ยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้กิจกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยน การเก็งกำไร ราคาเหรียญที่แจกเป็น Incentive และ DeFi TVL ลดลงตามไปด้วย

เปรียบเทียบผลตอบแทน DeFi Farming บนบล็อกเชนต่างๆ

สภาวะตลาด NFT 

  • เดือนที่ผ่านมาเป็นอีกเดือนที่ค่อนข้างเงียบของตลาด NFT:
    • Volume ยังคงเบาบางลงต่อเนื่องอีกเดือนในทุกเชน
    • ราคา Floor Price ของทุก Collection ยังคงได้รับผลกระทบทั้งหมดไม่ว่าจะ Collection เล็กหรือใหญ่
    • Volume และจำนวนผู้ซื้อขายบน Bitcoin (Ordinals) ลดลงหลังจากที่ครองอันดับ 1-2 มายาวนาน
  • แต่ถึงทุกอย่างยังคงไม่กลับตัวขึ้นก็ตาม OG Collection ตามเชนต่างๆ ยังคงเป็นที่น่าจับตามอง

Top 5 Volume Projects (Collectible NFT)

BASE ONCHAIN SUMMER II

BASE ONCHAIN SUMMER เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นปีที่สอง ระหว่างมิถุนายน – สิงหาคมเพื่อโปรโมทกิจกรรม Onchain ต่างๆ โดยเฉพาะการส่งเสริม Culture และ NFT Creators ให้สามารถเข้ามาร่วมส่งผลงานเข้าร่วมได้ ผลคือ มี Creators เข้าร่วมอย่างล้นหลาม ทั้ง Artist ภาพวาดต่างๆ
เพลง และอื่นๆ – ถือว่าเป็นวิธีการสร้าง Culture และดึง NFT Creator ไม่ว่าจะอยู่เชนไหนให้เข้ามาสู่ BASE

Authors

Share :
Related
Thailand Blockchain Landscape 2024
Technical Analysis $SUI $FTM by Cryptomind Advisory (15 Oct 24)
CoinTalk (11 October 2024) – เมื่อไหร่จะ Uptober สักที
CoinTalk (27 September 2024) – เตรียมตัวเข้าสู่ Uptober