ทุกคนเคยได้ยิน “ทฤษฎีผลประโยชน์” ของคุณพิชัย จาวลา ที่จะมีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะสามารถทำกำไร และ สามารถชนะตลาดได้รึป่าวครับ ? โดยทฤษฎีนี้จะเป็นการที่เราเข้าใจความคิดของคนส่วนใหญ่ และ ตัดสินใจแบบคนส่วนน้อย เพื่อให้ได้ผลรับที่มากขึ้น เนื่องจากในตลาดนี้ทุกๆคนจะไม่สามารถกำไรได้นั้นเอง
โดยแต่ละคนอาจจะมีการใช้ Indicator ที่บอกจุดซื้อ-ขาย ไม่ว่าจะเป็น RSI, CDC Action Zone, EMA, MACD เป็นต้น เพื่อให้เรานั้นเทรดคริปโตฯได้อย่างเป็นระบบมีจุดซื้อ-ขายที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
แต่ถ้าผมบอกว่ามี Indicator ตัวนึงที่สามารถบอกได้ว่าคนในตลาดส่วนใหญ่นั้นกำไร หรือ ขาดทุนอยู่ และมันก็สามารถใช้ได้ผลมาตลอดทุกๆ cycle นั้นคือ MVRV หรือ Market-value-to-realized-value นั้นเองที่เป็น Indicator ที่ดูไม่ยาก และ มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งก็สอดคล้องกับทฤษฎีผลประโยชน์ของ คุณพิชัย จาวลา ว่าเราต้องเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น จึงจะสามารถทำกำไรได้
วันนี้ทาง Cryptomind Research จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Indicator ตัวนี้ว่ามันเป็นอย่างไร
MVRV Indicator คืออะไร
ขอบคุณภาพจาก https://www.blockchain.com/explorer/charts/mvrv
MVRV หรือ Market-value-to-realized-value เป็น Indicator ที่เอาไว้ดูว่าคนส่วนใหญ่ ณ ตอนนี้มีกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งสามารถเอาไปใช้ในการประเมินหาจุดตำ่ และ จุดสูงสุด ของตลาดนั้นเอง ซึ่งทำให้สามารถประเมินคร่าวๆได้ว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การสะสมนั้นเอง โดยมีวิธีการประเมินคร่าวๆดังนี้
MVRV Ratio ตํ่ากว่า 1 : จะเป็นโอกาสทองที่เหมาะกับการเข้าซื้อเป็นอย่างมาก
MVRV Ratio 1 – 2 : เป็นโซนที่เหมาะแก่การสะสม หรือ เหมาะแก่การ DCA นั้นเอง
MVRV Ratio 2 ขึ้นไป : เป็นช่วงที่ควรเริ่มหยุดเอาเงินสดเข้า และ ควรถือไว้เฉยๆ
MVRV Ratio 3 ขึ้นไป : เป็นช่วงที่เหมาะแก่การทยอยทำกำไร
รายละเอียด MVRV Ratio ของแต่ละ Cycle
ค่า MVRV ช่วงปี 2017-2018
ช่วงปี 2017 เกิดยุคทองของ ICO ที่ก็มีหลายโปรเจกต์ต่างๆสามารถระดมทุนโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลางได้ ก็ส่งผลให้ราคา Bitcoin โดยราคาสูงสุดในปี 2017 อยู่ที่ประมาณ $ 18,911 โดย MVRV เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 4.3 ซึ่งอยู่ในโซนที่มากกว่า 3 หลังจากนั้นตลาดก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว และดัชนี MVRV ก็ร่วงลงเรื่อยๆ แล้วไปอยู่ในโซนตำ่กว่า 1 อยู่ ซึ่งก็เป็นจุดต่ำสุดของตลาดรอบนั้น จากนั้นก็มีการปรับตัวขึ้นมาที่ 1-2 จนปี 2020
ค่า MVRV ช่วงปี 2020-2022
ช่วงปี 2020 จะเข้าสู่ในช่วง Covid-19 ที่เป็นโรคระบาด ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีการทำ QE หรือ มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ บวกกับว่า ยุคบุกเบิกของ DeFi หรือ Decentralized Finance ทำให้ตลาดโดยรวมกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยในช่วงปี 2021 MVRV มีการปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ราวๆ 3.7 โดยหลังจากนั้นไม่นานก็มีการเทขายทำกำไรลงมา
แต่ยังไม่จบเพราะตลาดก็มีกลับอย่างรวดเร็วกลับไปทำ ATH ใหม่ ที่ราคา $69,045 แต่ว่า MVRV จะอยู่ที่ราวๆ 2.8 เท่านั้น จากนั้นราคาก็ปรับตัวลงมาจากการล่มสลายของ FTX และ เหรียญ Luna ซึ่งในช่วงที่ FTX แตก MVRV ก็ได้มีการลงไปตำ่กว่า 1 และก็เป็นอีกครั้งที่เป็นจุดตำ่สุดของตลาด
ค่า MVRV ในปัจจุบัน
หลังจากการระเบิดของอดีต Centralized Exchange เบอร์ 2 อย่าง FTX ตลาดก็เข้าสู่สภาวะซึมบวกกับที่ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% ถึง 5.50% ทำให้ภาพรวมของตลาดคริปโตฯ ดูย่อยยับเป็นอย่างมาก ซึ่ง ณ ตอนที่ตลาดซึมๆเป็นช่วงที่ MVRV อยู่แถวๆ 1- 1.5 ซึ่งถึงแม้ว่าภาพรวมจะไม่ดี แต่ก็เป็นโซนที่เหมาะแก่การเก็บของ
จนเริ่มมีข่าวว่า Blackrock เข้ามายื่นขอเปิด Bitcoin ETF หลังจากนั้นไม่นานตลาดก็ค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นมาเรื่อยๆจน ณ ตอนนี้ MVRV Ratio อยู่ที่ราวๆ 2.5 ซึ่งเป็นโซนที่ไม่เหมาะกับการเก็บของมากนัก แต่คาดการณ์ได้ว่านี้อาจจะยังไม่ใช่ยอดจุดสูงสุดของตลาดขาขึ้นรอบนี้
MVRV สูงขนาดนี้เราควรทำอย่างไร
อ้างอิงข้อมูลจาก Whalemap ที่เป็นเว็บไซต์ที่ทำให้เราสามารถดูจุดซื้อ-ขายของผู้เล่นรายใหญ่ได้ โดยจะเห็นได้ว่ายิ่งมีฟองใหญ่มากเท่าไหร่ แสดงว่ามีแรงซื้อบิทคอยน์มากขึ้นเท่านั้น โดยจะมีจุดที่มีการซื้อครั้งใหญ่ๆจะอยู่ 2 จุดคือ บิทคอยน์ราคาประมาณ $ 40K กับ $50K ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงซื้อจากสถาบันหลังจากที่ได้มีการอนุมัติ Bitcoin spot ETF
ขอบคุณภาพจาก https://www.theblock.co/data/crypto-markets/bitcoin-etf
จากข้อมูลของ The Block จะเห็นว่า Inflow ของการซื้อ-ขาย Bitcoin spot ETF ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นั้นแทบจะเป็นบวกเกือนทุกวัน
โดยตอนนี้ผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้าซื้อที่ราคา $ 40K กำไรประมาณ 60% ส่วนคนที่เข้าซื้อที่ราคา $ 50K จะกำไรประมาณ 30% ซึ่งผู้เล่นรายใหญ่นี้อาจจะไม่ได้หวังผลกำไรมากเท่ากับนักลงทุนรายย่อย และแน่นอนว่าถ้าหากเรามอง MVRV ประกอบที่ขึ้นมาอยู่ในระดับราวๆ 2.5 อาจจะวิเคราะห์ได้ว่าในระยะสั้นอาจจะมีแรงเทขายทำกำไรอยู่บ้าง
แต่ในระยะยาวแล้ว ตลาดคริปโตฯ นั้นกำลังอยู่ใน Sentiment ที่ค่อนข้างดี และยังไม่มีข่าวร้ายอะไรมากดดัน ทำให้ตลาดรู้สึกกังวล แต่จะมีเพียงแค่หากในวันที่ 23 เดือนพฤษภาคม นี้ที่จะเป็น Final Deadline ของการตัดสินการอนุมัติ Ethereum spot ETF โดยหากมีปฎิเสธการอนุมัติอาจจะส่งผลทำให้ตลาดมีการปรับตัวลงได้
แต่ในระยะยาวค่อนข้างมองบวก เนื่องจากปีนี้จะเป็นปีที่ FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย และจะเป็นผลดีกับสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆรวมถึงคริปโตฯด้วย
สรุป MVRV Indicator
MVRV เป็น Indicator ที่ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าคนส่วนใหญ่ในตลาด ณ ตอนนั้นกำลังขาดทุน หรือ กำไร ซึ่งเราสามารถมองได้ว่าถ้าคนส่วนใหญ่ในตลาดขาดทุน จุดนั้นจะเป็นจุดที่ดีในการเข้าสะสม เหรียญต่างๆที่มีพื้นฐานดี
โดยเราจะสามารถนำข้อมูลนี้ที่ใช้ในประกอบการตัดสินใจในการลงทุนของตัวเอง ว่าเราควรจะ Take Action ในแต่ละช่วงเวลานั้นอย่างไร ช่วงไหนน่าซื้อ ช่วงไหนน่าสะสม หรือ แม้กระทั่งช่วงไหนที่เราควรจะขายทำกำไร ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดได้ ตามแบบฉบับคนส่วนน้อยได้นั้นเอง