Macroeconomics: สรุปปัจจัยต่างๆที่จะมีผลต่อการขึ้นหรือลงของตลาดคริปโตฯ
- ปัจจัยจากเงินเฟ้อ: นักวิเคราะห์มองว่าอัตราเงินเฟ้อ Headline รวมอาหารและพลังงานใน Q4 น่าจะกลับมาน่ากังวลมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Core cpi ดีดขึ้นมา 0.1% ยังถือว่าไม่น่ากังวลมาก และถึงแม้ว่าตลาดหุ้นจะตอบรับในเชิงลบจากการประกาศ CPI แต่ตลาดคริปโตฯไม่ได้ลงมากแล้ว บ่งบอกถึง Downside ที่เริ่มจำกัด
- ปัจจัยจากดอกเบี้ย: นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ อาจจจะคงอัตราดอกเบี้ยไปอีกสักระยะจนถึงประมาณเดือนพฤษภาคม 2024 และน่าจะเริ่มลดในช่วงเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะลดจำนวนเงิน QT ก่อน ซึ่งทั้งสองทางคือจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโตฯ
- ปัจจัยจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐ: อย่างไรก็ตาม ดัชนี DXY ทำทรงไปต่อ ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดคริปโตฯอาจจะยังลงไดัอีก
- ปัจจัยสภาวะเศรษฐกิจอื่นๆ: ภาพของ hard landing เหลือน้อย ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง โดย Employment rate เริ่มกลับไปก่อนโควิด wages growth เริ่มลดลงก่อนโควิด ภาพที่เห็นในเร็วๆนี้ นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะเป็น Soft landing แทนที่จะเป็น Hard landing
- ปัจจัยจากการเทขายสินทรัพย์ของ FTX: ปัจจัยที่มาจากกรณีที่ FTX จะเทขายสินทรัพย์สัปดาห์ละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่ง Asset หลักคือ SOL อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าไมน่ากลัวมากเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งเพราะอาจมีการเข้ามาซื้อ OTC จาก Justin Sun หรือ DWF labs ซึ่งต้องคอยติดตามดูเพราะยังไม่ได้ประกาศออกมาแน่ชัด ทางนักวิเคราะห์มองว่าถ้าซื้อเข้าซื้อจริงตลาดก็น่าจะ Sideway ต่อ แต่ถ้าไม่ซื้อตลาดน่าจะร่วง
- Fear & Greed index: เมื่อเทียบกับ Cycle ก่อนๆ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าCycle ปัจจุบันนั้นอาจลงไปแตะ Extreme Fear อีกครั้งก่อนที่ตลาดจะกลับเข้าสู่ Bull โดยในช่วงนี้นักวิเคราะห์มองว่าตลาดจากนี้อาจ Sideway down และออกข้างไปเรื่อยๆจนกว่าจะแตะโซนแดงและมีข่าวดีโถมเข้ามา จึงมองว่ายังไม่เหมาะกับการเทรดหน้า Buy แต่หากเป็นการซื้อสะสมไปเรื่อยๆคิดว่าก็เป็นจุดที่ไม่แย่นัก
- ผู้บริหาร Binance global ลาออก: เริ่มมีผู้บริหาร Binance global ลาออกเยอะ ซึ่งในมุมมองของนักวิเคราะห์ประเมินว่าสถานการณ์การเงินของ Binance ค่อนข้างโปร่งใส และน่าจะไม่เกิด Crisis อะไร รวมถึง CZ ออกมามาพูดว่าผู้บริหารที่ลาออกมีเหตุผลคือออกไปเปิดของตัวเองหรือออกไปทำที่บริษัทอื่น นอกจากนี้ถึง Binance US ถูกปิดก็ไม่น่าส่งผลกระทบอะไรมากเพราะ Market share น้อยมาก
- สรุปมุมมองการลงทุนคริปโตฯจากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดคือ ตลาดน่าจะ Sideway down ไปอีกสักระยะ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าในช่วงที่เหลิอของปีเป็นช่วงนี้น่าเก็ยสะสมแบบ DCA อย่าเพิ่ง All in เพราะต้องเผื่อเงินสดไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วย โดยเน้นสะสมตัวใหญ่อย่าง BTC, ETH ส่วน Altcoin อาจยังไม่ใช่จังหวะในการใส่แบบเต็มๆ เพราะ BTC Dominance ยังเป็นขาขึ้นและยังไม่มีเงินใหม่เข้ามา
Altcoin และเทรนด์ที่น่าจับตามอง
- ถึงแม้ว่านักวิเคราะห์จะมองว่าเหรียญ Altcoin ยังไม่ใช่จังหวะลงทุนที่ดีนัก แต่ก็ยังมีเหรียญบางตัวที่แข็งกว่าตลาดอย่างเช่น OP ที่ยังเกาะกระแสในอนาคตอย่าง Layer 2 และ EIP-4844 โดยตอนนี้เหรียญอย่าง ARB ก็ลงมาเยอะ นักวิเคราะห์มองว่าเป็นจุด Risk/reward ที่ดี
- Friend.tech: มี Activity ค่อนข้างสูงโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา และมองว่าเป็นตัวที่จะได้ประโยชน์จาก Crypto culture และอาจเป็นตัวนำเทรนด์ใน Bull run หน้าได้
- Telegram bot: นักวิเคราะห์มองว่าเป็น Narrative ที่น่าสนใจ โดยในช่วงที่ผ่านมามี Daily active user ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Banana gun bot และ Unibot (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Telegram bot ได้ที่นี่) นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ที่เป็น Telegram bot infrastructure อย่างเช่น Azuro ที่จะทำตัวเป็น Liquidity layer
- LSD, LSDfi, LRT: นอกเหนือจาก LSD และ LSDfi ที่เคยพูดถึงไปใน Cointalk ก่อนหน้านี้ ยังมีอีกกลุ่มที่น่าจับตาอย่าง LRT หรือ Liquid restaking ที่จะทำตัวเป็น Pool รวมแล้วนำไป Stake บน Eigen layer รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ ทำให้เพิ่ม Yield ได้มากขึ้นเทียบจากการ Stake แบบเดิมๆเพียงอย่างเดียว (คิดง่ายๆคือเป็นตัว On top พวก LSDfi อีกที) นอกจากนี้ LRT ยังมีโอกาสในการฟาร์ม Airdrop ได้
- Real world assets: เป็นกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากการเข้ามาของเงินจากสถาบัน ตัวอย่างโปรเจกต์ เช่น Centrifue, Goldfinch, Ondo รวมถึงเป็นกลุ่มที่คนเริ่มพูดถึงกันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ
- GambleFi เช่น RLB, Thales, Winr protocol
- Account abstraction เช่น Argent, Plena finance
- สรุปการลงทุน Altcoin เพื่อเก็ง Bull run: ในช่วงเริ่มต้น Bull นักวิเคราะห์มองว่ากลุ่มที่จะขึ้นก่อนหลังจาก BTC, ETH คือ กลุ่มที่เข้าใจง่ายอย่างพวก LDO, RPL และค่อยตามมาด้วยกลุ่มพวก RWA
- Bitcoin lightning wallet: อย่าง Alby wallet ที่เป็นคล้ายกับ Appstore ที่มี Application หลายอย่าง โดยถึงแม้ว่าจะไม่ได้ Run บน Smart contract 100% แต่ว่าถือว่าเป็นขั้นแรกของการพัฒนาที่ดีและมี User experience ที่ดีเพื่อรองรับสู่ขั้นต่อไปสำหรับ Adoption ในอนาคต และถ้าดูจากสถิติการใช้งานก็เติบโตในช่วงที่ผ่านมา
.
คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต