Atomic Swap คือหนึ่งในเทคโนโลยีบน Smart contracts ที่ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนคริปโทเคอเรรนซี่ต่างๆได้โดยไม่ต้องใช้การพึ่งพาตัวกลางหรือบุคคลที่ตามอื่นๆ ซึ่งเป็นการซื้อขายจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งแบบโดยตรงหรือเรียกว่า Peer-to-peer นั่นเอง และยังสามารถแลกเปลี่ยนคริปโทฯที่อยู่ต่างบล็อกเชนก็ทำได้เช่นกัน โดยแนวคิดของ Atomic swap ถูกเสนอครั้งแรกในปี 2013 โดยบุคคลที่ชื่อว่า Tier Nolan เนื่องมาจากข้อจำกัดจากการซื้อขายแบบดั้งเดิม เช่น AMM DEX จะมีข้อจำกัดจากจำนวนคู่เทรดที่มีจำกัด เป็นต้น
ข้อดีของการใช้ Atomic swap คือความปลอดภัย เนื่องจากผู้ใช้ไม่ต้องให้ Private key ของตนเองเลย ส่วนอีกข้อดีที่ถูกยอมรับคือเนื่องมาจากว่าไม่จำเป็นต้องมีตลาดกลาง จึงส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามาก (ไม่มีค่าฝากเงิน ถอนเงิน หรือค่าธรรมเนียมการซื้อขาย) อีกทั้ง Atomic swaps ยังสามารถช่วยต่อต้านการโกงจากการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Hash Timelock Contracts (HTLC) และฟังก์ชันแฮช สัญญาอัจฉริยะ HTLC รับรองว่าการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นทั้งหมดหรือไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งการทำงานของ HTLC คือผู้ซื้อและผู้ขายทั้งสองฝ่ายจะต้องทำการตกลงการซื้อขายหรือว่าจะยกเลิกก็ได้ แต่ว่าต้องกระทำภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น Atomic swap จะเสร็จสมบูรณ์เฉพาะในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายยืนยันความถูกต้องผ่าน HTLC เท่านั้น
Atomic swap แบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ
- On-chain swap เพื่อแลกเปลี่ยนคริปโทฯสองสกุลบนบล็อกเชนที่ต่างกัน
- Off-chain swap บน Layer 2 (ไม่ใช้บนบล็อกเชนหลัก) อย่างเช่น บน Bitcoin Lightning Network
กระบวนการ Atomic swap
ยกตัวอย่างการแลกเปลี่ยนโดย Atomic swap เช่น สมมุติว่า Sam มีบิตคอยน์ 5 หน่วยแต่ต้องการแลกเปลี่ยนกับ BNB และ Do Kwon ที่มี BNB พร้อมที่จะทำการแลกเปลี่ยน โดยใช้เทคโนโลยี Atomic swap พวกเขาสามารถทำการซื้อขายแบบ Peer-to-peer ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม นั่นหมายความว่าสองสกุลเงินที่แตกต่างกันและทำงานอยู่บนบล็อกเชนที่แยกกันสามารถซื้อขายกันได้โดยตรง
กระบวนการที่เกิดขึ้นคือ
- Sam ส่งคำสั่งเหรียญ Bitcoin บน Bitcoin blockchain
- Do Kwon ส่งคำสั่งเหรียญ BNB บน BNB Chain
- Sam เคลมเหรียญ BNB ของ Do Kwon และเปิดเผย Secret number (X) บน BNB Chain
- Do Kwon จะเห็น Secret number (X) บน BNB Chain และนำไปใช้ในการเคลมเหรียญ Bitcoin บน Bitcoin Blockchain
อย่างไรก็ตาม Atomic swaps ยังช้า ใช้งานได้ยากสำหรับคนทั่วไป และมี Wallet รองรับน้อย จึงยังเข้าถึงคนหมู่มากไม่ได้ในเวลานี้ นอกจากนี้ แนวคิดของ Atomic swaps ยังมาพร้อมกับข้อจำกัดต่างๆ อีกด้วย เช่น ความรู้พื้นฐานในการเขียนโค้ดของผู้ใช้ก็เป็นสิ่งที่ต้องมี