คำว่า “Altcoin” ใช้เพื่ออธิบายสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือกที่ไม่ใช่ Bitcoin ซึ่งที่มาของคำว่า Altcoin ถือกำเนิดขึ้นมาเนื่องมาจากว่า Bitcoin ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตัวแรกของโลก ดังนั้นเหรียญหรือโทเคนดิจิทัลอื่นๆจึงถือว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือก หรือเป็นภาษาอังกฤษว่า “Alternative coins” ซึ่งเรียกสั้นๆได้ว่า Altcoin นั่นเอง
โดย Altcoin ตัวแรกที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมามีชื่อว่า “Namecoin (NMC)” ที่ถูก Fork มาจาก Bitcoin ในช่วงเดือนเมษายน 2011 หรือเป็นเวลา 3 ปีหลังจากที่ Bitcoin กำเนิดขึ้นในปี 2008 และเนื่องมาจากว่า NMC ได้ถูก Fork มาจาก Bitcoin ทำให้มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกันโดยกระบวนการ Consensus Mechanism แบบ Proof of Work เช่นเดียวกับ Bitcoin
ซึ่งนับตั้งแต่การเกิดขึ้นของ Altcoin ตัวแรกมาถึงในปี 2023 นี้ ได้มี Altcoin เกิดขึ้นจำนวนมากกว่า 20,000 Altcoin แล้ว โดยนอกจากเหรียญบล็อคเชนที่ใช้ Consensus Mechanism แบบ Proof of Work ก็มีเหรียญบล็อกเชนที่ใช้ Consensus ประเภทอื่นๆอย่างเช่น Proof of Stake, Delegated Proof of Stake, Proof of Authority เป็นต้น นอกจากเหรียญบล็อกเชนในยุคแรกแล้ว ในยุคต่อมายังมีเหรียญประเภทอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Governance Token, Meme coin, Stablecoin, Utility token เป็นต้น แต่ละประเภทก็มีจุดประสงค์ต่างๆกันออกไป
ส่วน Altcoin ที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดก็คือ Ethereum (ETH) ซึ่งได้กำเนิดขึ้นมาในช่วง ICO Boom ในปี 2015 โดยปัจจุบันเหรียญ ETH ครอง Market Cap ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Bitcoin ที่ Market Cap อยู่ที่ 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2023)