อาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ตลาดกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เราได้เห็นนักลงทุนหลายคนทำเงินมหาศาลจาก Narrative ของ “AI Token” เหรียญอะไรก็ตามที่มีตัวอักษร “A” และ “I” อยู่ในชื่อก็สามารถ Outperform ตลาดได้ทั้งหมด และใครก็ตามที่โยนเงินเข้าไปเล่นกับเหรียญพวกนี้ก็สามารถกำไรกันได้ง่ายๆโดยไม่ต้องคิดอะไร แต่อย่างไรก็ตามในใจลึกๆ ของทุกคนต่างรู้กันดีว่าสักวันจุดจบของการขึ้นอย่างรุนแรงนี้จะต้องจบลง ทำให้การลงทุนไล่ตาม Narrative แบบนี้ดูเผินๆเหมือนจะง่าย แต่กลับมีความเสี่ยงหลายๆอย่างซ่อนอยู่ นักลงทุนจึงควรจะเข้าใจและมี Mindset ที่ถูกต้องเมื่อคิดจะลงทุนในเหรียญตาม Narrative ระยะสั้นแบบนี้
อย่างแรกที่นักลงทุนต้องรู้คือ Narrative เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดที่ทรงพลัง โดยเฉพาะในตลาดคริปโต Narrative สามารถขับเคลื่อนได้ทุกเหรียญที่เข้าได้กับ Narrative นั้น โดยที่ไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ยกตัวอย่างเช่นเหรียญ AI ในตอนนี้ทุกตัวขึ้นอย่างรุนแรง ตามกระแสของ ChatGPT และ Microsoft หรืออีกตัวอย่างคือ เหรียญ Metaverse ใน Bull run รอบก่อนหน้า ที่ขึ้นตามกระแสการเปลี่ยนชื่อเป็น “Meta” ของ Facebook ทำให้เหรียญหรือ Project อะไรที่เข้ามาแตะ Metaverse ก็จะได้รับอานิสงค์ไปด้วย เราจะเห็นว่า Narrative สามารถทำให้เหรียญทุกชนิดขึ้นอย่างรุนแรงได้ ไม่ว่าจะมีพื้นฐานดีหรือแย่แค่ไหนก็ตาม
คำถามต่อมาคือ “การจะลงทุนตาม Narrative ต้องสนใจปัจจัยพื้นฐานหรือไม่” ซึ่งคำตอบคือไม่เสมอไป เนื่องจากอย่างที่ได้กล่าวไป แค่เราลงทุนในเหรียญที่เข้าได้กับ Narrative ไม่ว่าจะพื้นฐานแย่แค่ไหน ก็สามารถพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงได้ ทำให้ในความเป็นจริงแล้ว หากเราใช้ปัจจัยพื้นฐานมาพิจารณาเป็นหลัก เรามักจะไม่ได้พิจารณาการเข้าลงทุนใน Short term narrative แบบนี้ ทั้งที่มันถือเป็นโอกาสที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้
ทำให้เราเห็นว่าสิ่งที่สำคัญคือ “การแยก Short term กับ long term narrative ออกจากกัน” เนื่องจากทั้งสองแบบมีวิธีการลงทุนที่แตกต่างกันชัดเจน ถ้าเราจะเข้าไปเล่นกับ Short term narrative เราจะต้องมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก เน้นความเร็วในการเข้าออก การติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ร่วมถึงการจัดการความเสี่ยงที่ดี ส่วนถ้าเป็นการลงทุนกับ long term narrative นักลงทุนจะต้องศึกษาพื้นฐานให้ดีและ ถือให้ยาวพอจนราคาของเหรียญสะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริง
“Narrative เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาขึ้นส่วน Fundamental คือปัจจัยที่ทำให้อยู่รอดได้ในระยะยาว”
สุดท้ายคือนักลงทุนต้องรู้ว่าควรวางตัวอย่างไรกับการมาของ Narrative แต่ละครั้ง สิ่งที่ Ideal ที่สุดคือการเป็นคนแรกๆที่เจอ Narrative และลงทุนก่อนคนอื่นตั้งแต่ต้นสาย ซึ่งแบบนี้จะเป็นการได้เปรียบมากและสามารถทำกำไรได้มากที่สุด แต่การหา Narrative ใหม่ๆ ให้เจอเป็นเรื่องที่ยากและมีความเสี่ยงสูง ทำให้สถานการณ์ที่นักลงทุนส่วนมากจะเจอคือการที่เราเจอ Narrative ที่เกิดขึ้นแล้วและเริ่มเห็นเหรียญที่พุ่งขึ้นหลายเท่าโดยไม่มีเหตุผล โดยการวางตัวที่ปลอดภัยที่สุดคือการไม่เข้าไปยุ่งกับการขึ้นระยะสั้นแบบนี้ เนื่องจากมันมีความเสี่ยงที่สูงและผันผวนมาก แต่บางคนหากรับความเสี่ยงได้และมองว่า ไม่อยากพลาดโอกาสอาจใช้การโยนหินถามทางคือนำเงินที่เสียได้ไปกระจายลงในหลายๆเหรียญ ก็เถือป็นหนึ่งในวิธีที่ทำได้หากมีการจัดการความเสี่ยงที่ถูกต้อง
แต่มันจะดีกว่าหากนักลงทุนสามารถถอยออกมาดูและลองวิเคราะห์ว่า Narrative นั้นเป็นกระแสระยะสั้นหรือระยะยาวและกลับมาประเมินความเสี่ยงของตัวเอง เนื่องจากเข้าใจ Narrative ที่จะเข้าไปลงทุนและจัดการความเสี่ยงได้อย่างดีแล้ว มันจะเปิดโอกาสในให้นักลงทุนสามารถแบ่งสัดส่วนของพอร์ทให้มี Exposure กระแสที่กำลังมาและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมได้โดยที่กระทบการพอร์ทการลงทุนน้อยที่สุด
โดยสรุปเราจะเห็นจากประวัติศาสตร์หลายๆรอบว่าตลาดคริปโตนั้นมี Narrative ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเสมอ และทุกๆครั้งจะมีนักลงทุนที่สามารถทำกำไรได้มาก แต่ก็มีนักลงทุนที่ขาดทุนสูงเช่นกัน ฉะนั้นการลงทุนกับ Narrative ให้ได้ประสิทธิภาพ นักลงทุนจะต้องใช้ Mindset ที่สอดคล้องกับชนิดของ Narrative ที่จะเข้าไปเล่น โดยเฉพาะ Narrative ระยะสั้น ที่มีความผันผวนสูงและเป็นการขึ้นโดยไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทำให้การพยายามวิเคราะห์เชิงพื้นฐานอาจไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มันกลายเป็นเหมือนดาบสองคม ที่หากเข้าไปลงทุนได้อาจมีโอกาสทำกำไรได้สูงและในทางกลับกันก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นการขึ้นโดยไม่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาสนับสนุน จะเห็นว่า Mindset การลงทุนที่ดีและการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเป็นทักษะที่ควรมีทั้งสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นและการลงทุนระยะยาว
คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและ สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
