Search
Close this search box.

สรุป CoinTalk ประจำวันที่ 6/1/2023

Share :
cointalk banner 6-1 web

Table of Contents

Macroeconomics

  • โดยรวมในปี 2022 ที่ผ่านมาสินทรัพย์แทบทุกอย่างให้ผลตอบแทนติดลบ ยกเว้นแค่ Commodity กับ Cash 
  • ส่วนคริปโตเคอเรนซี่ก็ถือว่า Underperform สินทรัพย์อื่นๆ โดยกลุ่ม Metaverse ตกหนักที่สุด ส่วนกลุ่ม Privacy coin ตกน้อยที่สุด
  • ช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ให้จับตาดูตัวเลข Non-farm payrolls และตัวเลขเงินเฟ้อ Core inflation rate ว่าจะปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 7.1% หรือไม่ ตัวเลขเงินเฟ้อค่อนข้างสำคัญที่จะส่งผลต่อนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และตัดสินทิศทางของตลาด ถ้าเงินเฟ้อลงไม่พอและปีนี้ Fed ขึ้นดอกเบี่ยเกิน 5% จะทำให้ตลาด Panic ได้
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าสภาพตลาดตอนนี้คล้ายกับในปี 1970 คือถ้าในปีนี้เงินเฟ้อเริ่มทรงตัวได้ ตลาดหุ้นจะดีดกลับ แต่ถ้าเงินเฟ้อกลับมาพุ่งอีกครั้งจะทำให้ตลาดหุ้น Panic และตกหนัก การที่จะไม่เกิดเหตุการณ์ที่เงินเฟ้อกลับมาพุ่งอีกได้คือจะต้องเกิด Recession และ CPI ลดเยอะๆ 
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า Fed น่าจะ Pivot ช่วง Q3 2023 และช่วง Q1-Q2 ควรจะเป็นช่วงสะสมที่ดีในกรณีที่ Recession เป็นแบบ Soft landing แต่ถ้าเป็น Hard landing ตลาดก็อาจจะลงต่อ

DeFi/Alt coin

ขอบคุณภาพจาก Galois capital
  • หนึ่งในวิธีการจำแนกโปรเจกต์คริปโทฯคือ Griftiness หรือดีกรีความแสกม และ Utopianism หรือความสามารถของโปรเจกต์ในการแก้ปัญหาที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น เหรียญ BNB จัดอยู่ใน Quadrant 1 เพราะไม่ใช่เหรียญสแกม (Lower grift) แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร (Lower utopianism) เป็นต้น
  • กลุ่มที่ปลอดภัยที่สุดคือกลุ่ม Quadrant 1 เช่น BNB, BTC, ETH ส่วนถ้าเสี่ยงขึ้นมาหน่อยก็เป็น Quadrant 2 เช่น โปรเจกต์ที่อาจเข้ามาแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่ยังไม่เกิด แต่อาจจะเกิดใน Cycle หน้า อย่างเช่นกลุ่มที่เป็น AI, MEV และถ้าเป็น Quandrant 4 อย่างเหรียญ Meme Token ที่เสี่ยงมากที่สุดแต่หากอ้างอิงจากสถิติย้อนหลังก็สามารถ perform ได้ดีในตลาดกระทิง
ขอบคุณภาพจาก Messari
  • ใน Q1 2023 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า หนึ่ง Sector ที่อาจจะ Outperform ได้คือ Liquid staking เพราะในช่วงเดือนมีนาคม Ethereum จะมี Shanghai upgrade ทำให้คนที่ Stake เหรียญ ETH ถอนออกมาได้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้คนมาสนใจใช้บริการ Liquid staking มากขึ้น และตอนนี้ Staking ratio ของ ETH ยังอยู่แค่ 14% ซึ่งยังเติบโตได้อีกมาก (เชนอื่นประมาณ 70%) เหรียญในกลุ่มนี้ที่น่าจับตามอง เช่น LDO, RPL แต่ถ้าดู Valuation เหรียญ LDO จะราคาถูกกว่าตัวอื่นๆ ข้อเสียของเหรียญ LDO คือยังเป็นแค่ Governance token ที่ใช้โหวตอย่างเดียว ส่วน RPL ใช้ Stake เพื่อลดจำนวนเหรียญ ETH ที่ใช้ในการตั้ง Validator ได้
  • อีกกลุ่มที่นักวิเคราะห์มองว่าน่าจับตามองคือ DeFi เพราะจากวิกฤติที่เกิดขึ้นกับ CeFi และราคาเหรียญในกลุ่ม DeFi ที่ที่ผ่านมาลงเยอะมากจน Downside ตอนนี้น่าจะต่ำมากแล้ว
  • ตามแผนของหลายๆโปรเจกต์ ในปี 2023 คาดว่าจะมีการออกเหรียญ อย่างเช่น Arbitrum ที่เป็น Layer 2, Lens protocol ที่เป็น Social media (กลุ่ม Social media ก็เป็นอีกกลุ่มที่ระดมทุนได้เยอะ) ซึ่งจากมุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าถ้าออกเหรียญในช่วงที่ตลาดเริ่มกลับมาดีอาจจะทำให้คริปโทฯกลับมาคึกคักได้

.

คำเตือนความเสี่ยง : คริปโทเคอร์เรนซี่มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

Author

Share :
Related
เข้าสู่ยุคใหม่ของ Bitcoin ? พาส่อง Bitcoin Ecosystem ปี 2024 
Cryptomind Monthly Outlook (April 2024)
Technical Analysis $PENDLE, $BNB โดย Cryptomind Advisory (22 Apr 24)
CoinTalk (19/4/24):