ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีพนักงานและผู้บริหารของ Binance และ Binance US ทยอยลาออกกันอย่างมากมายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน จนทำให้ผู้คนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรึเปล่า มีอะไรต้องกังวลไหม และ Binance จะปิดตัวหรือไม่ นักลงทุนสามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้

บุคคลสำคัญที่ลาออก
ภายใน 3 เดือนที่ผ่านมานี้ Binance Global มีบุคคลสำคัญลาออกไปแล้วกว่า 10 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น Chief Strategy Officer, Head of Product, VP of Compliance, General Counsel และต่ำแหน่งที่สำคัญอื่นๆ อีกหลายตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นการลาออกของผู้บริหารในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันมากผิดปกติ

ขอบคุณภาพจาก crypto India
ส่วน Binance US นั้นน่าเป็นห่วงกว่าเพราะมีตำแหน่งสำคัญมากลาออกไปถึง 3 ตำแหน่งนั้นคือ CEO, Head of Legal และ Chief Risk Officer และมีการปลดพนักงานออกกว่า 50 คน หลังจากที่โดน SEC ฟ้องในช่วงเดือน มิถุนายน ซึ่งทั้ง 3 คนนี้เป็นบุคคลหลักที่ติดต่อประสานงานเรื่องการฟ้องร้องกับ SEC โดยตรง
ซึ่งการที่มีบุลคลสำคัญลาออกกว่า 10 ตำแหน่งภายในไม่กี่เดือนนับเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก การลาออกครั้งนี้จึงส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของ Binance และ Binance US อย่างมาก อีกทั้งยังทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในรึเปล่า
แถมในอดีต CZ (Changpeng Zhao) CEO ของ Binance เคยออกมา tweet เอาไว้เองว่าให้ระวังแพลตฟอร์มที่ 1.ให้ APY สูงๆ หรือ 2.มีการเลิกจ้างพนักงาน เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้มีความอันตราย แต่ทว่าในวันนี้เรากลับได้เห็นการลาออกของพนักงาน และผู้บริหารอย่างมากมายของ Binance

ขอบคุณภาพจาก cz_binance
สาเหตุหลัก
วันที่ 5 มิถุนายน SEC ยื่นฟ้อง 13 ข้อหากับ Binance US และ Changpeng Zhao (CEO Binance) โดยประกอบด้วยข้อหาต่างๆ อย่างการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนแก่ชาวสหรัฐ, การขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ตัวเองเป็นเจ้าของ (BNB, BUSD), การที่ Binance US ดำเนินกิจการไม่อิสระกับ Binance, การแอบใช้เงินของลูกค้าโดยไม่ได้รับความยินยอม, มีส่วนร่วมกับการทำ Wash trading บน Binance US อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ก.ล.ต.สหรัฐยื่นฟ้อง
จากการฟ้องร้องของ SEC ทำให้ Volume การซื้อบน Binance US ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในเดือน กันยายน 2023 volume การเทรดบน Binance.US เหลือเพียงแค่ $2.97m เท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่อช่วงเดือน พฤษภาคม 2023 ที่มี volume การเทรดอยู่ประมาณ $500m นับเป็นการลดลงกว่า 99%

ขอบคุณภาพจาก The Tie Terminal/Amberdata
การฟ้องร้องของ SEC ในครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อ Binance.US ทำให้เสียความเชื่อมั่นอย่างมาก และมีรายได้ที่ลดลงอย่างมหาศาล นี้จึงอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ Binance.US จำเป็นต้องปลดพนักงานกว่า 100 คน ในช่วงที่ผ่านมา
เท่านั้นยังไม่พอล่าสุดในวันที่ 14 กันยายน 2023 SEC ได้กลับมายื่นฟ้องต่อศาลอีกครั้ง โดยกล่าวหาว่า Binance.US ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเว็บเทรด และต้องการขอเข้าตรวจสอบ Binance.US ในทันที ทำให้มีหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าสิ่งนี้จะกระทบ Binance Global ไหม และ Binance.US จะถึงขั้นปิดตัวหรือไม่
ข่าวร้ายของ Binance ในช่วงนี้
ข้อกล่าวหาเบื่องต้นที่ SEC กล่าวหา Binance.US ในตอนนี้
- มีหลักฐานการก่ออาชญากรรม, อาจจะเป็นเรื่องการยักยอกเงินลูกค้าคล้ายกรณีของ FTX
- มีหลักฐานแน่ชัดว่า Ceffu กระเป๋าเงินที่เก็บเงินลูกค้าของ BinacneUS ถูกบริหารโดย Binance Global
- Ceffu ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินเท่านั้น อาจจะมีลับลมคมในอย่างอื่นอีก
- BAM ผู้ให้บริการซื้อขายของ Binance.US ไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์บน exchange

ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจาก Adam Cochran
อีกทั้งมีเอกสารในชั้นศาลจากทาง Auditor ของ Binance.US ว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะมั่นใจว่าทาง Binance.US มีเงินค้ำประกันเต็มจำนวนในช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือไม่มั่นใจว่า Binance.US มีเงินของลูกค้าครบตลอดเวลา และเอาเงินของลูกค้าไปหมุนรึเปล่า
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทาง SEC ได้กดดันทาง Binance.US อย่างหนักในหลายเรื่อง จนทาง Binance และหลายๆคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการกลั่นแกล้งรึเปล่า แต่ถ้าหากศาลตัดสินว่าสิ่งที่ SEC กล่าวหามาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง นี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ Binance เสียความเชื่อมั่นอย่างมากแน่นอน
การตอบโต้จาก Binance
CZ ได้ออกมาตอบโต้เรื่องที่คนสงสัยกับการลาออกของ Brian Shroder CEO ของ Binance.US ว่าเขาสมควรได้พักผ่อนหลังจากที่เขาสามารถทำสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำเมื่อเข้าร่วมเมื่อสองปีก่อนสำเร็จ ภายใต้การนำของเขา
เพียงไม่นานหลังจากการลาออกของ Brian Shroder CEO คนเก่า ทาง Binance.US ได้แต่ง CEO ชั่วคราวคนใหม่นั้นคือ Norman Reed อดีต SEC และยังเป็นสมาชิกของ Federal Reserve Bank of New York อีกทั้งยังเป็นคนที่มีส่วนสำคัญ ในการสู้คดีการฟ้องร้องระหว่าง Ripple และ SEC

ขอบคุณภาพจาก cz_binance
บางทีการลาออกของบุลคลสำคัญของ Binance.US อาจจะเป็นแผนการของทาง Binance ตั้งแต่แรก โดยให้คนที่ติดต่อกับ SEC โดยตรง ลาออกไปเพื่อทำให้การดำเนินงานของ SEC ล่าช้าลง และดึงคนที่มีประสบการณ์ในการสู้คดีกับ SEC เข้ามาคุมโดยตรง ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวที่มีความน่าสนใจ
ในเรื่องการปลดพนักงาน CZ กล่าวว่าทาง Binance มีโปรแกรมในการปลดพนักงานที่ไม่เหมาะสมกับบริษัทเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และก็มีการผลักดันให้มีการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ตลอด, Binance สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่เดือนที่ 4 ที่ก่อตั้งบริษัท และหลังจากเดือน ตุลาคม 2017 Binance ก็มีกำไรอย่างสม่ำเสมอตลอดมา

ขอบคุณภาพจาก cz_binance
ส่วนในเรื่องคดีความที่ทาง SEC กล่าวหา ทาง Binance ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ และให้เป็นการตัดสินของศาลส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ “FUD”
Proof of Reserves
ทางผู้เขียนได้ตรวจสอบข้อมูล Proof of Reserves ของ Binance ของเดือนกันยายน 2023 ที่หน้าเว็บไซต์ของ Binance และตรวจสอบร่วมกับข้อมูลที่ cryptoquant โดยออกมาตรงกันว่าตอนนี้ Binance มี Reserves สำรองมากกว่าจำนวนเงินฝากบน Binance

ส่วนข้องมูล Proof of Reserves ของ Binance.US นั้นอยู่กับทาง Ceffu ที่คนทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบได้ และสามารถตรวจสอบได้โดย Auditor ของ Binance.US เท่านั้น ซึ่งมีความน่าเป็นห่วงเพราะทาง Auditor เองก็ยังไม่มั่นใจว่าทาง Binance.US มีเงินค้ำประกันเต็มจำนวนตลอดเวลา
บทสรุป
Binance ยังคงเป็น Exchange อันดับ 1 ของโลกในเรื่องของ รายได้ ผู้ใช้งาน และส่วนแบ่งทางการตลาด แถมมี Proof of Reserve ที่เทียบมากกว่ายอดเงินฝาก ที่นักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งเหตุผล และข้อกล่าวหาส่วนใหญ่นั้นยังไม่แน่ชัด หลายอย่างยังเป็นเพียงแค่การคาดเดา จึงคิดว่าโดยรวมแล้วไม่น่ามีความเป็นห่วงอะไรมาก
ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุดสำหรับ Binance ทางผู้เขียนก็คิดว่าจะเป็นแค่การปิดกิจการของ Binance.US ซึ่งมีขนาดไม่ถึง 1% ของ Binance Global แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรจะเก็บสินทรัพย์ทุกอย่างไว้กับตัวเองเสมอเผื่อมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น “NOT YOUR KEY NOT YOUR COIN”